สมาคมแพทย์ผิวหนังฯแนะนำวิธีป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น

 

มาคมแพทย์ผิวหนังฯ มีความเป็นห่วงคนไทยป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น เผยวิธีดูแลป้องกันให้ถูกวิธี โอกาสที่จะเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้จะน้อยลง หลังจากช่วงนี้พบผู้ติดเชื้อและมีผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคไข้กาฬหลังแอ่นในประเทศไทย

รศ.นพ.นภดล  นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีผู้ป่วยป่วยด้วยโรคไข้กาฬหลังแอ่น และมีการระบาดที่จังหวัดสตูลนั้น โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบเข้ากระแสเลือด ผู้ป่วยบางคนที่ติดเชื้อชนิดนี้  จะมีอาการที่รุนแรง และเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว  ปัจจุบันโรคนี้มียาปฏิชีวนะสำหรับรักษา และมีวัคซีนสำหรับป้องกัน โดยสำหรับในประเทศไทย พบได้เฉลี่ย 20-50 รายต่อปี และจำนวนผู้ป่วยค่อนข้างคงที่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

 


 

ในปี พ.ศ. 2554 พบผู้ป่วยจำนวน 22 ราย เสียชีวิต 2 ราย สาเหตุของโรคเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชื่อ Neisseria meningitides ประมาณ 10 % ของคนทั่วไป จะตรวจพบเชื้อชนิดนี้เจริญอยู่ที่หลังโพรงจมูก โดยไม่ทำให้เกิดอาการใด ๆ เรียกว่าเป็นพาหะโรค หากเป็นสถานที่ ที่มีคนอยู่กันอย่างแออัด เช่น ค่ายทหาร หอพัก อาจพบผู้ที่เป็นพาหะโรคของเชื้อได้มากขึ้น 

 


รศ.นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย

 

“การติดเชื้อจะเกิดเฉพาะจากคนสู่คน ไม่มีสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคหรือเป็นแหล่งรังโรค การติดต่อเกิดโดยการหายใจเอาเชื้อแบคทีเรียที่กระจายอยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย หรือของผู้ที่เป็นพาหะ หรือการสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งเหล่านี้แล้วนำมาสัมผัสกับเยื่อบุจมูก ตา หรือปากของเรา ผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วย หรืออาศัยอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นโรคไข้กาฬหลังแอ่นที่เกิดภาวะติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด จะมีโอกาสติดเชื้อจากผู้ป่วยมากกว่า 400 เท่าเมื่อเทียบกับคนทั่วไปๆที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย  โรคนี้พบได้ในทุกกลุ่มอายุ แต่มักพบในเด็กมากกว่าในผู้ใหญ่”

 


 

อาการของโรค สามารถพบอาการหลัก ๆ ได้ 3 แบบ คือ 1. เยื่อหุ้มสมองอักเสบโดยไม่เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด 2. เยื่อหุ้มสมองอักเสบร่วมกับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด  3. ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดเพียงอย่างเดียว ผู้ป่วยจะมีไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้อาเจียน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย โดยอาการจะเป็นอยู่ 1-2 วัน แล้วตามด้วยการเกิดผื่นที่ผิวหนัง ซึ่งเป็นลักษณะที่ค่อนข้างจำเพาะของโรคนี้ คือเริ่มต้นจะเป็นผื่นแบบแบนราบสีแดงจางๆ ต่อมาจะเกิดจุดเลือดออกเล็กๆ สีแดงเข้ม ขนาด 1-2 มิลลิเมตร ในบริเวณผื่นเหล่านี้ โดยมักพบตามลำตัว ขา และบริเวณที่มีแรงกดบ่อย ๆ เช่น ขอบกางเกง ขอบถุงเท้า บริเวณอื่น ๆ  ที่จะพบได้คือ ใบหน้า มือ แขน เยื่อบุตา เยื่อบุช่องปาก จุดเลือดออกเหล่านี้บางครั้งอาจกลายเป็นตุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่มีเลือดออก  ซึ่งอาจเกิดการเน่าและกลายเป็นเนื้อตายได้  หากผู้ป่วยเกิดเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบร่วมด้วย ก็จะมีอาการปวดต้นคอ คอแข็ง หลังแข็ง และซึมร่วมด้วย  การวินิจฉัย สามารถทำได้โดย การเจาะเลือด เจาะดูดนำไขสันหลัง หรือตัดชื้นเนื้อบริเวณผื่น ไปตรวจหาเชื้อโดยการส่งย้อมสี หรือเพาะเชื้อ ส่วนการรักษา ใช้ยาปฏิชีวนะควบคุมโรคได้หลายชนิดและมีประสิทธิภาพดี ยาที่ใช้ในการรักษาได้แก่ ยาในกลุ่ม เพนนิซิลิน (penicillin) เช่น เซฟาโลสปอริน (Cephalosporin) รุ่นที่ 3 เป็นต้น

 


ผื่นที่ผิวหนัง ซึ่งเป็นลักษณะที่ค่อนข้างจำเพาะของโรคนี้ คือเริ่มต้นจะเป็นผื่นแบบแบนราบสีแดงจางๆ

 

สำหรับผู้ป่วยที่มีเยื่อหุ้มสมองอักเสบโดยไม่มีการติดเชื้อในกระแสเลือด มีอัตราตายประมาณ 5% โดยหากมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดร่วมด้วยจะมีอัตราตายสูงขึ้นเป็น10-40% แต่หากผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในกระแสเลือดชนิดรุนแรงมีจะมีอัตราตายสูงถึง 70-80%

คำแนะนำในการดูแลตนเองเบื้องต้นและการป้องกันโรค หากสงสัยว่าอาจเป็นโรคนี้ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว หากมีบุคคลได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไข้กาฬหลังแอ่น ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน รวมทั้งผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ควรรับประทานยาปฏิชีวนะสำหรับป้องกันการติดเชื้อ  และหากมีการระบาดของโรคเกิดขึ้น ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นควรได้รับวัคซีนหรือยาปฏิชีวนะสำหรับป้องกันตามคำแนะนำของแพทย์ สำหรับบุคคลทั่วไป การป้องกันทำได้โดยหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หากจำเป็นต้องเข้าไป ควรสวมหน้ากากอนามัย  และหมั่นล้างมือบ่อย ๆ

 


อย่าลืมล้างมือบ่อยๆ

 

 

 

 

 

More
มารู้จักเนื้องอกต่อมไทมัสที่มีคนไทยมีโอกาสเป็นหนึ่งในล้าน
รู้จัก “โรคติดเชื้ออาร์เอสวีในผู้ใหญ่” ภัยเงียบที่อันตรายถึงชีวิต
โรงพยาบาลรามาธิบดี บูรณาการความร่วมมือทางการแพทย์ เผยผลสำเร็จการปลูกถ่ายไตด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ครั้งแรกในอาเซียน
ลาก่อน นอนกรน!! นวัตกรรมรูปแบบใหม่ เลเซอร์รักษานอนกรน
สัปดาห์สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก รณรงค์การสร้างภูมิคุ้มกันโรคในผู้ใหญ่
Others
3 ขั้นตอน จัดระเบียบตัวเองอย่างไร ให้ห่างไกล ความอ้วน(ตอนจบ)
อาดิดาส จัดกิจกรรมวิ่ง “ON-THE-GO City Hunt” ระดมพลนักวิ่งสายสตรีทตะลุยกรุง 3 เส้นทางสุดมันส์
“สมรักษ์ คำสิงห์ควง บี้ KPN” คอนเฟิร์มชายไทยยุคนี้ต้องสตรอง...!!
5 หนุ่ม “DVICIO” แฟนมีทติ้งสุดเอ็กคลูซีฟ..ครั้งแรกในไทย!!
จัดยิ่งใหญ่ AWEN Women CEOs Summit ครั้งแรกในประเทศไทย มุ่งผลักดัน AWEN DECLARATION BANGKOK 2019 เสริมสร้างศักยภาพผู้นำ...
Latest
BeOnCloud จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงที่ Gaysorn Amarin เพื่อประกาศหลากหลายโปรเจกต์ของค่ายที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้
APEX Medical Centerเตรียมจัดงานใหญ่ ครบรอบ 28 ปี พร้อมดึง “มีน-พีรวิชญ์” มาแชร์ประสบการณ์การดูแลตัวเอง
ททท. จับมือ ฮาล์ฟ โทสท์ ชวนฟิน เต็มอิ่มผ่านเสียงเพลง ในงาน Why Festival Carnival Charity เทศกาล "เขา มันส์ ได้!" ที่ สว...
“FAB” ฟู้ดโฮดิ้ง ธุรกิจน้องใหม่จาก “เบียร์ ใบหยก” และ 2 พันธมิตรดัง
สร้างสรรค์เมนูของว่างแสนอร่อย ด้วยน้ำผักผลไม้แท้ จาก เนเจอร์ เซ็นเซชั่น

 

 

Top Hits
Za DEEP HYDRATION ผิวเปล่งปลั่งอิ่มน้ำมีประกาย สวยตั้งแต่วินาทีนี้
ลดอาการปวดเมื่อยด้วย “ท่านอนที่ถูกวิธี”
“พีพี กฤษฏ์” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์นมพิสทาชิโอแบรนด์ ซันคิสท์ แบรนด์ระดับโลก พร้อมร่วม ครีเอทเมนูสุดพิเศษด้วยนมพิสทาชิโอที่...
มัดรวมภาพประทับใจจากงาน เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา คอลแลปส์ แจ็คสัน หวัง เนรมิต “เดอะ ไฟน์เนส แมนชั่น”
Bruce Jenner ตัดสินใจเป็นผู้หญิงในวัย 65 ปี
10 อันดับอาหารคอเลสเตอรอลสูง
เธอคือใคร? Hailey Baldwin สาวที่ Justin คิสในไอจี