คุรุสภา เดินหน้ายกระดับครูสะเต็มไทยสู่เวทีโลก ขยายผลต้นแบบโครงการ SEA-TEP จาก SEAMEO-STEM ED และพันธมิตรภูมิภาค สู่นโยบายระดับชาติ

 

สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ประกาศเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จของโครงการครุศึกษายุคใหม่ SEA-TEP (Southeast Asian Teacher Education Programme) ยกระดับครูสะเต็ม (STEM) ทั่วประเทศไทย

 


 

        ในงานประชุมวิชาการนานาชาติ Thailand International Conference on Education Research (ThaiCER) 2025: Education for the Future ระหว่างวันที่ 7 – 9 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร หลังจากที่โครงการดังกล่าวบรรลุผลสัมฤทธิ์ด้วยดีภายใต้ความร่วมมือระหว่างศูนย์ระดับภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ศูนย์ SEAMEO STEM-ED) กับพันธมิตรระดับภูมิภาค และการสนับสนุนจาก บริษัท เชฟรอน พร้อมชูแนวทางขยายผลโครงการฯ สู่การประยุกต์ใช้เพื่อออกแบบนโยบายครุศึกษาระดับชาติที่ได้มาตรฐานสากล มุ่งเตรียมความพร้อมนิสิตนักศึกษาครูและครูประจำการในประเทศไทยให้สามารถจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพผ่านองค์ความรู้สะเต็ม ตอบโจทย์ความท้าทายจริงในศตวรรษที่ 21 เพื่อ “ก้าวนำมาตรฐานการศึกษา” และยกระดับคุณภาพครูไทยให้พร้อมในเวทีระดับนานาชาติ ทั้งในด้านการสอน การประเมิน และการพัฒนาทักษะผู้เรียนในโลกยุคใหม่ โดยภายในงานมีทั้งตัวแทนภาครัฐ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา นักการศึกษา รวมถึงผู้กำหนดหลักสูตรและนโยบายจากนานาชาติกว่า 500 คน เข้าร่วมงาน 

 


 

       ระบบการศึกษาในหลากหลายประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ยังคงเผชิญกับความท้าทายด้านการเตรียมความพร้อมของครูในการจัดการเรียนรู้ให้มีการบูรณาการข้ามศาสตร์ และเข้าถึงทรัพยากรการเรียนรู้ด้านสะเต็มที่มีคุณภาพ โครงการครุศึกษายุคใหม่ หรือ SEA-TEP จึงพัฒนาขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 เพื่อยกคุณภาพการพัฒนาครู โดยดำเนินการครอบคลุม 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย คาซัคสถาน กัมพูชา อินโดนีเซีย และมาเลเซีย นำโดย ศูนย์ SEAMEO STEM-ED ร่วมกับพันธมิตรระดับภูมิภาค ได้แก่ SEAMEO SEAMOLEC, SEAMEO RECSAM, สมาคมสะเต็มแห่งชาติมาเลเซีย (National STEM Association Malaysia), Caravan of Knowledge, กระทรวงศึกษาธิการกัมพูชา และสถาบันพัฒนาครูชั้นนำในภูมิภาค ซึ่งตลอดระยะเวลาโครงการฯ กว่า 2 ปี ได้มุ่งเสริมสร้างขีดความสามารถของครูสะเต็มทั้งนิสิตนักศึกษาครูและครูประจำการผ่านการออกแบบหลักสูตร การอบรมเชิงปฏิบัติการโดยผู้เชี่ยวชาญ และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างประเทศ โดยโมเดลที่พัฒนาขึ้นได้ตอบโจทย์ความท้าทายของสะเต็มศึกษาในภูมิภาค ด้วยการยกระดับแนวทางการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษาอย่างมีประสิทธิผล พร้อมพัฒนาขีดความสามารถของครูในการประยุกต์ใช้เทคนิคการสอนที่มีประสิทธิภาพในบริบทจริง รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาและการประยุกต์ใช้สื่อการเรียนรู้สะเต็มที่มีคุณภาพ และยกระดับสมรรถนะนิสิตนักศึกษาครูสะเต็มให้พร้อมต่อการสอนในศตวรรษที่ 21

 


ดร.เกศรา อมรวุฒิวร

 

        ดร.เกศรา อมรวุฒิวร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการ ศูนย์ SEAMEO STEM-ED กล่าวว่า “โมเดล SEA-TEP ได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับการผลิตและพัฒนาครูอย่างเป็นระบบ โดยอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายทั้งในระดับชาติและระดับภูมิภาค ด้วยเป้าหมายในการเสริมสร้างสมรรถนะของผู้นำด้านการศึกษา พร้อมพัฒนาเป็นต้นแบบที่สามารถขยายผลได้จริงในการยกระดับการจัดการเรียนรู้สะเต็มในห้องเรียน ซึ่งมีการปรับการดำเนินงานให้สอดคล้องกับปัญหาเชิงโครงสร้างที่แตกต่างกันไปตามบริบททางการศึกษาของประเทศนั้นๆ ในภาพรวม SEA-TEP มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ตามกรอบการประเมินด้านวิทยาศาสตร์ของ PISA 2025 (โปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล) และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ยุคใหม่ (Next Generation Science Standards: NGSS) ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์บริบทของห้องเรียนในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมายและนำไปใช้ได้จริง”

 


 

 


 

 

       “ตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการกว่า 2 ปี SEAMEO STEM-ED ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานใน 5 ประเทศ เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนสะเต็มอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ โดยสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับครูต้นแบบมากกว่า 120 คน จาก 24 มหาวิทยาลัยและสถาบันพัฒนาครู ซึ่งครูเหล่านี้ได้ขยายผลการเรียนรู้ต่อให้กับนิสิตนักศึกษาครูและครูประจำการกว่า 1,500 คน ในโรงเรียนกว่า 214 แห่ง โดยโครงการดังกล่าว มีบทบาทสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการจัดการเรียนการสอนด้านสะเต็มในประเทศที่เข้าร่วมโครงการ อีกทั้งยังเป็นต้นแบบความร่วมมือระดับภูมิภาคที่มีศักยภาพในการพัฒนาครูและการศึกษาให้เดินหน้าอย่างยั่งยืน” ดร.เกศรา กล่าวเสริมถึงความสำเร็จของโครงการฯ 

 


 

      หัวใจสำคัญของ SEA-TEP คือการเน้น “การเรียนรู้แบบสามมิติ (Three Dimensional Learning)” มิติแรก บูรณาการองค์ความรู้ข้ามศาสตร์ มิติที่สอง พัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ และมิติที่สาม ผสานด้วยการคิดวิเคราะห์ที่หลากหลาย เช่น การคิดเชิงระบบ การหาความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลของตัวแปร เป็นต้น เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจและสร้างคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ต่อปรากฎการณ์ที่ได้เรียนรู้  (phenomenon-based learning) หรือต่อการแก้ปัญหาสถานการณ์จริงด้วยเทคนิคสามขั้นตอนที่เรียกว่า “claim-evidence-reasoning” (CER) โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จากการสังเกต การสืบค้น หรือการทดลอง พร้อมการใช้หลักการและเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาประกอบเพื่อพัฒนาความคิดเชิงตรรกะและทักษะสำคัญของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 พร้อมเติบโตเป็นประชากรที่สามารถรับมือกับความท้าทายที่ต้องอาศัยการผสมผสานความรู้ความเข้าใจจากหลายสาขาวิชาเข้าด้วยกัน เช่น ด้านสาธารณสุข ความยั่งยืน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

 


นางสาวซามิรา คานาปิยาโนวา

 

        นางสาวซามิรา คานาปิยาโนวา ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอนยูเรเชียแปซิฟิกสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า “เชฟรอนเชื่อว่า การเสริมศักยภาพครูด้วยเครื่องมือและทรัพยากรที่มีคุณภาพและเหมาะสม คือปัจจัยสำคัญในการบ่มเพาะนักนวัตกรรมไปจนถึงวิศวกรรุ่นใหม่ ซึ่งจะมีบทบาทในการขับเคลื่อนและแก้ไขโจทย์สำคัญของโลกในอนาคต เราจึงมุ่งมั่นสนับสนุนการยกระดับรากฐานของการเรียนรู้ด้านสะเต็ม ผ่านโครงการระดับภูมิภาคอย่างโครงการครุศึกษายุคใหม่ (SEA-TEP) เพื่อร่วมสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพ และพร้อมรับมือกับความท้าทายในศตวรรษที่ 21 อย่างยั่งยืน”

 


 

 


 

 


 

 


 

       การดำเนินงานของโครงการครุศึกษายุคใหม่ (SEA-TEP) ในประเทศไทย นำโดยคณาจารย์สะเต็มศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำสามแห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยอาจารย์พี่เลี้ยงได้ให้ครูแต่ละคนปรับแผนการสอนของตนเองที่มีอยู่แล้วแทนการใช้บทเรียนที่ทางโครงการฯ ยกมาเป็นต้นแบบ เพื่อให้การพัฒนาการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดรับกับบริบทของผู้เรียน พร้อมประยุกต์ใช้กรอบการเรียนรู้แบบสามมิติ ซึ่งเน้นการตั้งคำถาม และใช้กรอบการอธิบายด้วยเหตุผลผ่านเทคนิค “claim-evidence-reasoning” (CER) พร้อมทั้งใช้โปรแกรมสร้างแบบจำลอง (Modelling) เพื่อให้นักเรียนสามารถอธิบายปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ได้ด้วยการพัฒนาแผนผังความสัมพันธ์ของตัวแปรต่างๆที่ส่งผลต่อปรากฎการณ์นั้นๆ อีกทั้งนักเรียนยังเรียนรู้การใช้โปรแกรมจำลองสถานการณ์เสมือนจริง (interactive simulation tools) เพื่อเข้าใจถึงสถานการณ์ที่ไม่สามารถทำการทดลองได้ง่าย เช่น การเกิดน้ำท่วม ไฟป่า เป็นต้น  นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวร ยังได้ผสานการใช้เครื่องมือ EQuIP Rubric เพื่อประเมินคุณภาพแผนการสอนคณิตศาสตร์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล และเสริมความต่อเนื่องของเนื้อหาในแต่ละระดับชั้นอย่างเป็นระบบ พร้อมใช้การประเมินที่หลากหลายและสอดแทรกในบทเรียนเพื่อวัดผลการเรียนรู้ระหว่างทางของนักเรียน

 


 

        แนวทางของประเทศไทย สะท้อนการนำ SEA-TEP ไปประยุกต์ใช้อย่างมียุทธศาสตร์และตอบโจทย์บริบทในพื้นที่อย่างแท้จริง โดย รศ.ดร.มนตรี เเย้มกสิกร ที่ปรึกษาของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ด้านพัฒนาวิชาชีพ กล่าวว่า “การจับคู่ระหว่างอาจารย์พี่เลี้ยงและครูอย่างใกล้ชิด ทำให้ครูสะเต็มไทยในโครงการได้บูรณาการกระบวนทัศน์ใหม่ๆ เข้ามาในวิธีการสอน เช่น การใช้แบบจำลอง Modelling ทางคณิตศาสตร์ เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของข้อมูลและคาดการณ์ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่างๆ ได้ นอกจากเป็นการสร้างทักษะสำคัญของพลเมืองในยุคดิจิทัลที่ชาญฉลาดต่อการใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจแล้ว ยังถือเป็นการวางรากฐานเพื่อต่อยอดสู่อาชีพที่ใช้ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) นักวางแผนการตลาด เป็นต้น ซึ่งทุกองค์กรให้ความสำคัญกับการจัดการข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า เพื่อนำมาต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ อันจะช่วยกำหนดทิศทางของธุรกิจและองค์กรได้ สะท้อนให้เห็นว่าโครงการครุศึกษายุคใหม่ ไม่ใช่กรอบตายตัวที่ทำเหมือนกันทั่วทั้งภูมิภาค แต่ยืดหยุ่นได้เองตามความเหมาะสมและบริบทในแต่ละประเทศ ซึ่งสามารถนำไปขยายผลให้เกิดประโยชน์ทั้งระบบการศึกษาได้อย่างแท้จริง ดังนั้น เพื่อสานต่อโครงการครุศึกษายุคใหม่ และขยายผลสำเร็จต่อไปอย่างยั่งยืน สำนักงานเลขาธิการคุรุสภามีแผนจะนำกรอบการพัฒนาที่พิสูจน์แล้วภายใต้โครงการนี้ เป็นแนวทางในการวางรากฐานการออกแบบหลักสูตรการพัฒนาครูในระดับชาติต่อไป เพื่อยกระดับมาตรฐานครุศึกษาและศักยภาพวิชาชีพครูสู่อนาคต ให้ครูสะเต็มไทยทั้งนิสิตนักศึกษาครูและครูประจำการ มีความรู้ความสามารถโดดเด่นไปไกลถึงระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านการสอน การใช้เทคโนโลยี การประเมิน และการพัฒนาผู้เรียนให้พร้อมรับมือกับความท้าทายแห่งศตวรรษที่ 21”

 


 

      ความสำเร็จของ SEA-TEP สะท้อนถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของครู นักการศึกษา และเครือข่ายภูมิภาคในแต่ละประเทศที่ได้มุ่งนำโมเดลไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดในบริบทของพื้นที่ต่างๆ อีกทั้งยังเป็นต้นแบบของความร่วมมือระดับภูมิภาคที่เปิดพื้นที่ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเชิงนโยบายอย่างเป็นระบบ ซึ่งสามารถต่อยอดสู่การยกระดับมาตรฐานครุศึกษาและการจัดการเรียนการสอนด้านสะเต็มในระดับนานาชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยงานประชุมวิชาการนานาชาติ Thailand International Conference on Education Research (ThaiCER) 2025: Education for the Future ที่จัดขึ้นนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการสรุปผลโครงการ SEA-TEP ในฐานะต้นแบบสำคัญในการขยายผลการยกระดับคุณภาพการศึกษาสะเต็มทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขับเคลื่อนครุศึกษาในเชิงนโยบายต่อไปในระยะยาว

 

 

 

 

More
เปิดตัว โครงการการกุศลบทกวีจากเครื่อง POS UnionPay ครั้งแรกในประเทศไทย “แสงกวีส่องดวงใจ (Poetry Lights the Heart's Lante...
TK Park ประกาศผู้ชนะ โครงการ Book on Board #4 ดันเพดานการสร้างสรรค์ และต่อยอดผลงานคนไทย
กรมอนามัย เปิดตัวโครงการประจำปี 2568 “เด็กฉลาดสร้างได้ตั้งแต่แรกเกิด” ส่งเสริมสุขภาพแม่และเด็กไทย
คณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดตัว นวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ระบบใหม่ New Chapter of Med CMU Robotic Surgery Center แห่งแรกของ...
“ดีเจอ้อย - นภาพร” แชร์ประสบการณ์คุณแม่ป่วย “งูสวัดเรื้อรังกว่า 10 ปี!” ทรมานถึงทุกวันนี้ เตือนวัย 50+ รีบป้องกันก่อนสาย
Others
บอย พีซเมกเกอร์ กลับมาพร้อมซิงเกิ้ลใหม่เพลง “พื้นที่ทับซ้อน”
ครบรอบ 28 ปี ทีเอพี แจก “ทุนน้ำใจ ทีเอพี” และ หมวกกันน็อค หวังปั้นเยาวชนคุณภาพให้จังหวัดนนทบุรี
Rosie Huntington-Whiteley เปิดใจถึงภาพนู้ดสวยๆใน Violet Grey's magazine!
สำรวจพฤติกรรมเสี่ยง...7 โรค NCDs เผยคร่าชีวิตคนไทยสูงถึง 73% สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก
จับผิด 10 โรคที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวในระยะยาว
Latest
แพทย์แนะลดเสี่ยงมะเร็งปอด ตรวจคัดกรองเร็ว เพิ่มโอกาสหาย ลดการสูญเสีย
“พีช พชร” ประกบ “ออกแบบ ชุติมณฑน์” นำทีมเปิดศึกวายป่วง “อีสานซอมบี้” สนุกจัดเต็มที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24
คุรุสภา เดินหน้ายกระดับครูสะเต็มไทยสู่เวทีโลก ขยายผลต้นแบบโครงการ SEA-TEP จาก SEAMEO-STEM ED และพันธมิตรภูมิภาค สู่นโยบ...
แชมเปญบรั้นช์มื้อสายสุดชิคในสไตล์สเปน ณ ห้องอาหารสเปนอูโนมาส
โฟร์ท ณัฐวรรธน์ มูฟขึ้นแท่น FACE OF MAYBELLINE นำเสนอความเนียนในรูปแบบใหม่! Maybelline Thailand

 

 

Top Hits
“พีพี กฤษฏ์” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์นมพิสทาชิโอแบรนด์ ซันคิสท์ แบรนด์ระดับโลก พร้อมร่วม ครีเอทเมนูสุดพิเศษด้วยนมพิสทาชิโอที่...
มัดรวมภาพประทับใจจากงาน เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา คอลแลปส์ แจ็คสัน หวัง เนรมิต “เดอะ ไฟน์เนส แมนชั่น”
Za DEEP HYDRATION ผิวเปล่งปลั่งอิ่มน้ำมีประกาย สวยตั้งแต่วินาทีนี้
ลดอาการปวดเมื่อยด้วย “ท่านอนที่ถูกวิธี”
Bruce Jenner ตัดสินใจเป็นผู้หญิงในวัย 65 ปี
“เก้า - สุภัสสรา” ชวนช้อปสนุกสุดฟิน กับบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน สิทธิพิเศษเหนือระดับ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ที่ศูนย์กา...
10 อันดับอาหารคอเลสเตอรอลสูง