| “ผอมเพรียว ผิวสวย สุขภาพดี” รู้เรื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  กินให้ถูก ได้ประโยชน์ category: Health
tag: dietary supplement  อาหารเสริม  ฟาร์แมกซ์  วิตามิน  ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  แคลเซียม  คอลลาเจน
   
ปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากมายหลายแบบเหลือเกินในท้องตลาด  ซึ่งส่วนใหญ่การันตีสรรพคุณว่าดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพแทบทั้งนั้น  วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ถูกต้องกันค่ะ        สำหรับชื่อเรียกที่ถูกต้องนั้น เราต้องเรียกว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยมีที่มาจากคำว่า Dietary supplement  สามารถแบ่งประเภทของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ตามส่วนผสมออกเป็น 6  ประเภทใหญ่ๆได้แก่ 1.       วิตามิน           เช่น  วิตามิน เอ, บี, ซี, ดี, อี 2.       เกลือแร่           เช่น แคลเซียม, แมกนีเซียม, โฟลิค 3.       สมุนไพร         เช่น โสม, เอไคเนเซีย, วาเลเรียน 4.       กรดอะมิโนและโปรตีน   เช่น branched-chain amino            acid (BCAA), กลูตามีน, คอลลาเจน 5.       กรดไขมัน        เช่น     โอเมก้า3, โอเมก้า6 6.       เอนไซน์ เช่น     อะไมเลส, ไลเปส ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่เราเห็นตามท้องตลาด  ก็มีทั้งที่ใช้ส่วนผสมจากกลุ่มเดียว และส่วนผสมจากหลายๆ กลุ่ม           เราสามารถรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารร่วมกันหลายๆ ประเภทได้  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณและชนิดของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นๆ  โดยชนิดเดียวกันไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจทำให้เสียสมดุลของร่างกายจนเป็นพิษได้    
  
            สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอันดับแรก คือ ต้องระวังเรื่องเกลือโซเดียม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิดมีเกลือในปริมาณสูง ซึ่งส่งผลต่อการควบคุมความดัน ดังนั้นจึงควรตรวจสอบปริมาณเกลือโซเดียมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกครั้งก่อนรับประทานด้วย            ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง และต้องรับประทานยาเป็นประจำ ก็สามารถรับประทานวิตามินซี, วิตามินบี, แคลเซียม เฟลกซีด และคอลลาเจนได้  โดยรับประทานในปริมาณที่ไม่เกิน Thai RDA และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนที่จะเริ่มรับประทาน  ส่วนฟิชออยล์, เกรฟซีด ต้องระวังในผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง และต้องรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือเพิ่งเข้ารับการผ่าตัด  เพราะทั้งสองชนิดมีผลขัดขวางการแข็งตัวของเลือด           ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทวิตามินนั้นแบ่งเป็นสองกลุ่มคือ วิตามินที่ละลายในน้ำ และวิตามินที่ละลายในไขมัน ซึ่งวิตามินที่ละลายในน้ำส่วนใหญ่สามารถรับประทานเวลาไหนก็ได้ วิตามินซีต้องรับประทานหลังอาหารทันทีเนื่องจากบางรูปแบบจะมีความเป็นกรดทำให้ระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร  วิตามินบีสามารถรับประทานเวลาไหนก็ได้  เพื่อความสะดวกในการรับประทานวิตามินซีและวิตามินบี เภสัชกรแนะนำให้รับประทานวิตามินทั้งสองชนิดพร้อมกันหลังอาหารทันที  ส่วนวิตามินที่ละลายในไขมัน (วิตามินเอ, ดี, อี และเค) แนะนำให้รับประทานหลังอาหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึม         นอกจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทวิตามินจะได้รับความนิยมในการซื้อหามารับประทานอย่างแพร่หลายแล้ว  คอลลาเจน แคลเซียม Q10 หรือโอเมก้าต่างๆ ก็ได้รับความนิยมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แถมบางชนิดถูกนำไปเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารอีกด้วย คอลลาเจน     ค่อนข้างดูดซึมได้ยากจึงควรรับประทานตอนท้องว่าง เช่น ก่อนนอน แคลเซียม       ควรรับประทานพร้อมอาหาร เนื่องจากแคลเซียมต้องอาศัยแร่ธาตุและวิตามินหลายชนิดเพื่อช่วยในการดูดซึม โดยทั่วไปร่างกายต้องการแคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัม ตามปกติเราได้รับจากอาหารประมาณ 400 มิลลิกรัมต่อวัน  ดังนั้นจึงควรรับประทานเสริมวันละ 600 มิลลิกรัม Q10              เป็นสารที่ละลายได้ดีในน้ำมัน จึงนิยมให้รับประทานหลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น โดยรับประทานครั้งละ 30 มิลลิกรัม โอเมก้าจัดอยู่ในกลุ่มของกรดไขมัน โอเมก้าที่สำคัญมี 3 ชนิด โอเมก้า 3        พบได้ในน้ำมันปลา ประกอบด้วย EPA และ DHA ซึ่งช่วยเรื่องสมองและยังยั้งการอักเสบ รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น โอเมก้า 6        พบได้ในน้ำมันพริมโรส มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงนิยมรับประทานเพื่อลดอาการปวดประจำเดือน  โดยรับประทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น ก่อนประจำเดือนมาประมาณ 3 วัน โอเมก้า 9        พบได้ในน้ำมันมะกอก ส่วนใหญ่จะใช้เสริมการทำงานของโอเมก้า 3        ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสารอาหารที่ขาด  ดังนั้นควรรับประทานหรือไม่อย่างไรและควรรับประทานประเภทไหน ขึ้นอยู่ปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุหรืออาชีพที่ทำ ทำให้ต้องได้รับสารอาหารมากกว่าปกติหรือไม่ หรือมีปัญหาสุขภาพซึ่งควรต้องรับสารอาหารบางชนิดเพิ่มเป็นพิเศษ ชายและหญิงก็มีความต้องการสารอาหารที่ต่างกัน เนื่องจากระบบการเผาผลาญของร่างกายที่ต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงต้องเป็นสูตรเฉพาะที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน         ไม่มีข้อจำกัดอายุในการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ภายใต้การดูแลขอแพทย์และเภสัชกรเป็นสำคัญ    
  
         ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถรับประทานได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป โดยเลือกให้เหมาะกับช่วงอายุ  อายุที่ต่างกันจะมีความต้องการสารอาหารที่ต่างกัน  ซึ่งจะส่งผลต่อชนิด และปริมาณของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ต่างกันด้วย โดยในกลุ่มเด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ, ผู้ที่มีโรคประจำตัว  การเลือกในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร        ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ใช้ในการลดน้ำหนักมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีวิธีรับประทานที่ต่างกัน เช่น กลุ่มที่ยับยั้งเอนไซน์ที่ช่วยในการย่อยอาหาร และกลุ่มที่ยับยั้งการดูดซึมของสารอาหาร กลุ่มนี้จะรับประทานก่อนอาหารประมาณ 1 ช.ม. เพื่อให้ไปออกฤทธิ์ก่อนที่จะรับประทานอาหารเข้าไป         ส่วนกลุ่มที่ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน  กลุ่มนี้จะรับประทานช่วงเย็น  เนื่องจากร่างกายจะสังเคราะห์ไขมันในช่วงเย็น        กลุ่มที่ช่วยในการระบาย กลุ่มนี้จะรับประทานก่อนนอน  เพื่อให้เกิดการขับถ่ายในตอนเช้า ระยะเวลาในการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ขึ้นอยู่กับว่าร่างกายขาดอะไร  ถ้าสิ่งที่ขาดลดลงก็สามารถหยุดรับประทานได้ทันที  ส่วนวิธีการลดสารตกค้างจากการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน สามารถทำได้โดยการสลับไปรับวิตามินหรือเกลือแร่จากอาหารโดยตรง  เช่น วิตามินเอจากแครอท, วิตามินซีจากฝรั่ง, วิตามินบีจากข้าวกล้อง ดีเอชเอจากปลาทูเป็นต้น          ส่วนข้อหัามสำหรับการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกับยา ที่สำคัญและเป็นข้อควรจำ ได้แก่          ผู้ที่ต้องรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด ไม่ควรรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำพวก น้ำมันปลา, สารสกัดจากใบจิงโก๊ะ และเกรฟซีด เนื่องจากทั้งสามชนิดจะมีผลขัดขวางการแข็งตัวของเลือดเหมือนกัน  ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการควบคุมระดับยา  และไม่ควรรับประทานแคลเซียม ร่วมกับยาฆ่าเชื้อTetracycline  เนื่องจากแคลเซียมจะทำให้ประสิทธิภาพการดูดซึมของยา tetracycline ลดลง            ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีไว้เพื่อเสริมจากการรับประทานอาหารตามปกติ ไม่มีผลในด้านการรักษา ดังนั้นถ้าลืมรับประทานในบางครั้ง จึงไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานซ้ำ สามารถข้ามไปได้ หรือในกรณีที่รับประทานผิดเวลาก็มีผลเพียงการดูดซึมที่ลดลงเท่านั้น    
  
 ขอบคุณข้อมูลจาก ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล  จาก ฟาร์แมกซ์ (PHARMAX) เป็นศูนย์เภสัชกรรมชั้นนำ ที่มีเภสัชกรคอยดูแลและให้คำปรึกษาตลอดเวลาทำการทุกวันภายใต้คอนเซ็ปต์ “ ฟาร์แมกซ์ 356 วัน อุ่นใจ ใกล้บ้าน”เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงยาที่มีคุณภาพ ในราคาไม่แพง หรือสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 0-2514-7000 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/pharmaxshop       |