สายค็อกเทลไม่พลาด! บาคาร์ดี เปิดประสบการณ์สุดพิเศษ “บาคาร์ดี บาร์ ฮอปปิ้ง”
category: News & Event
tag: ฺBarcardi cocktial
พบกับ3 สุดยอดบาร์เทนเดอร์ของเมืองไทย ก่อนร่วมชิงชัยที่สิงคโปรใน “บาคาร์ดี เลกาซี่ โกลบอล ค็อกเทล คอมเพททิชั่น” ที่แม็กซิโกในเดือนเมษายน
เปิดตัวแรงอีกครั้งกับ บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล้ารัมระดับพรีเมี่ยม จัดกิจกรรมการแข่งขัน “บาคาร์ดี เลกาซี่ ค็อกเทล คอมเพททิชั่น ไทยแลนด์ 2018” ครั้งที่ 5 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดบาร์เทนเดอร์สู่การแข่งขันระดับโลกแห่งปี สัมผัสประสบการณ์ที่สุดแสนน่าประทับใจยามค่ำคืนด้วยค็อกเทลสูตรพิเศษที่ถูกรังสรรค์ขึ้นในบาร์แต่ละแห่งใจกลางมหานคร
มิทเชล ไค ลัม แบรนด์แอมบาสเดอร์ บาคาร์ดี เผยว่า “การแข่งขันบาคาร์ดี เลกาซี่ โกลบอล ค็อกเทล คอมเพททิชั่น ของปีนี้มีความพิเศษคือ บาร์เทนเดอร์ผู้เข้ารอบ 3 คนสุดท้ายของเมืองไทยจะได้ไปแข่งขันในระดับเอเชียที่สิงคโปร์ในรายการ ‘บาคาร์ดี เลกาซี่ ซี ค็อกเทล คอมเพททิชั่น’ ร่วมกับบาร์เทนเดอร์จากประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญของบาร์เทนเดอร์ไทย และผู้ที่ชนะจะได้เข้าสู่การแข่งขันระดับโลกอย่าง ‘บาคาร์ดี เลกาซี่ โกลบอล ค็อกเทล คอมเพททิชั่น’ ที่ประเทศแม็กซิโกในเดือนเมษายน”
สำหรับ 3 สุดยอดบาร์เทนเดอร์ของประเทศไทย ประเดิมด้วยหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวอย่าง แอน ปิ่นสุดา พงษ์พรหม บาร์เทนเดอร์สาวจากแบมบู บาร์ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล มาพร้อมเลกาซี่ค็อกเทลสูตรพิเศษที่มีชื่อว่า ‘Flourish’ (ฟลอริช)
ซึ่งแอนกล่าวว่า “ค็อกเทลที่แอนทำชื่อว่าฟลอริชค่ะ ซึ่งส่วนผสมก็จะมีน้ำมะม่วง แล้วก็มีมะม่วงไซรัปซึ่งแอนทำเอง แล้วก็นำเปลือกของมันมาทำเป็นยีสต์ธรรมชาติค่ะ โดยแรงบันดาลใจก็คือเมื่อก่อนที่บ้านแอนมีสวนมะม่วงเยอะมาก แต่พอฝนตกน้ำก็ท่วมแล้วสวนก็หายไปหมดเลย ก็เลยย้อนกลับมาว่าอยากทำอะไรที่ใกล้ตัวและช่วยโลกด้วยค่ะ ค็อกเทลของแอนทุกแก้วจะหักจากราคาที่ขายได้ 10 % เข้า ‘Second Chance’ เป็นกลุ่มการกุศลที่ช่วยเหลือเด็กด้วยค่ะ”
ต่อด้วยบาร์ที่ 2 ย่านอโศกกับ คิวแอนด์เอ บาร์ โดยบาร์เทนเดอร์ กอล์ฟ วรวุฒิ ตรีวัฒนาวงศ์ พร้อมเลกาซี ค็อกเทลสูตรพิเศษอย่าง ‘Nomad’ (นอแมด) ซึ่งกอล์ฟเล่าว่า “ค็อกเทลของผมชื่อนอแมดครับ นอแมดหมายถึงคนพเนจร คนที่อยู่ไม่เป็นที่ แต่ผมตีความมันใหม่ว่า คือคนที่เดินทางด้วย Passion แล้วส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ที่เราเก็บระหว่างทางผ่านเครื่องดื่มส่งต่อไปให้คนอื่น ซึ่งผมได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ผมนั่งรถไฟจากหัวลำโพงไปสก็อตแลนด์เส้นทรานส์ไซบีเรีย ไปทั้งหมด 3 เดือน เดินทางไปเรื่อย ๆ ผ่านทั้งหมด 22 ประเทศ และวัตถุดิบแต่ละตัวก็สื่อถึงบรรยากาศ อารมณ์ ความรู้สึก และประสบการณ์ ผมใช้รสชาติของความขม ที่เปรียบเหมือนประสบการณ์ความเป็นเราจนวันนี้ เพิ่มรสชาติความเผ็ดเข้าไปนิดนึง เปรียบเหมือนความตื่นเต้นระหว่างทางที่เราไม่คิดว่าเราจะเจอมันมาก่อน และมีสวีทฟลอรอล เหมือนกับเราสัมผัสความสวยงามระหว่างทาง เห็นวิวภูเขา เห็นทะเล และใช้ Bacardi Anos สื่อถึงประสบการณ์ ซึ่งบาคาร์ดีตัวนี้มีอายุ 108 ปี เหมือนกับประสบการณ์ที่ผมได้นั่งรถไฟจนจบ ผมรมควันแก้วด้วยซินนามอน เราจินตนาการเหมือนรถไฟหัวรถจักรโบราณที่มีควันออกมาตลอด นอแมดนี้จะมีความแรงหน่อยอารมณ์เหมือน โอลด์ แฟชั่น แมนฮัตตันครับ”
ปิดท้ายยามค่ำคืนที่บาร์ชื่อดังย่านทองหล่ออย่าง แรบบิต โฮล กับบาร์เทนเดอร์ เดปป์ นพป์เศรษฐ์ หิรัญวาทิต ด้วยเมนูค็อกเทลสูตรพิเศษ ‘Nostalgia’ (นอสตอลเจีย) เดปป์กล่าวว่า“สำหรับการมาลงแข่งบาคาร์ดี เลกาซี่ ค็อกเทล คอมเพททิชั่นในครั้งนี้ เป็นการพิสูจน์ว่าเรายังรักษาระดับมาตรฐานของเราได้หรือไม่ อีกอย่างหนึ่งคือ ต้องการแชร์ประสบการณ์ แชร์เรื่องราวลงไปในค็อกเทลให้กับคนที่ได้มาดื่มค็อกเทลแก้วนี้ ได้รู้สึกเหมือนที่เรารู้สึก ซึ่งนอสตอลเจีย เป็นการย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องราวสมัยวัยเด็กที่ผมได้กินน้ำมะพร้าว หรือแม่ป้อนกล้วยเข้าปาก หรือการซื้อน้ำอ้อยหน้าตลาดมากิน ซึ่งความทรงจำเหล่านั้นเราไม่สามารถนำมันกลับมาได้แล้วในปัจจุบัน ก็เลยดึงความทรงจำนั้นมาใส่ในแก้วนี้ครับ วัตถุดิบหลักที่ใช้คือเหล้ารัมของบาคาร์ดีครับ มีน้ำมะพร้าว กล้วย อัลมอนต์ เชอร์รี่และมีกลิ่นสโมค และตกแต่งด้วยกล้วยฉาบครับ ซึ่งกล้วยฉาบนี้เป็นเหมือนสแน็คครับ ทานคู่กับนอสตอลเจียแล้วเข้ากันมากครับ”
ร่วมลิ้มรสชาติค็อกเทลแบบดั้งเดิมของบาร์เทนเดอร์ผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ได้ด้วยตัวคุณเองที่บาร์ของพวกเขา หรือพบพวกเขาเหล่านี้ได้ในกิจกรรมต่าง ๆ ทั่วประเทศด้วยความหวังอันเปี่ยมไปด้วยการรังสรรค์ค็อกเทลให้กลายเป็นมรดกตกทอดสืบไปอย่างแท้จริง และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ค Bacardi Legacy Cocktail CompetitionSoutheast Asia.
|