10 อันดับ ศัลยกรรมยอดนิยม
category: Health
tag: ศัลยกรรม
ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าการทำศัลยกรรมเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นทางลัดที่จะนำพาทุกคนสู่ความงามได้อย่างทันใจ โดยไม่ต้องเสียเวลาอำพรางจุดบกพร่องต่างๆ ที่อยู่บนใบหน้า หรือร่างกายอยู่ตลอดเวลา บางคนอาจทำศัลยกรรมเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
ใครที่กำลังสนใจการทำศัลยกรรม ประเภทกล้าๆ กลัวๆ อยากลอง ไม่อยากลอง“นายแพทย์กมล พันธ์ศรีทุม” ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล มาให้ความรู้เรื่องนี้ว่าดีไม่ดีอย่างกันค่ะ
“หลายต่อหลายคนหันมาใช้วิธีการทำศัลยกรรมเสริมความงามเป็นตัวช่วยในการแก้ไขจุดบกพร่องให้เกิดความสวยงามกันมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำออกมาแล้วสมบูรณ์แบบตรงตามความต้องการอย่างไม่มีที่ติ เพราะพื้นฐานโครงสร้างในร่างกายของแต่ละคนนั้นมีต้นทุนที่ไม่เหมือนกัน”
ถึงแม้ว่าการทำศัลยกรรมในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีความปลอดภัยสูงกว่าแต่ก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสเกิดอันตราย ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ต้องการทำศัลยกรรม พร้อมทั้งศัลยแพทย์ด้วย
“อย่างที่ทราบกันว่า วิวัฒนาการในการทำศัลยกรรมมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือที่มีความทันสมัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ปลอดภัย และความเชี่ยวชาญที่มีมากขึ้นของทีมศัลยแพทย์ ทำให้โอกาสที่จะเกิดอันตรายในการทำศัลยกรรมมีลดน้อยลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลย ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับคนไข้และศัลยแพทย์ ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมควรศึกษาหาข้อมูลก่อนที่จะทำให้ดีๆ ตรวจสอบดูว่าแพทย์ที่จะไปทำการรักษานั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ในขณะที่ศัลยแพทย์ก็จะต้องมีความชำนาญมากพอ และระมัดระวังในการผ่าตัดให้มากที่สุด โดยเฉพาะการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อระบบอัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย เช่น การผ่าตัดแปลงเพศ ถือว่าเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายมากที่สุด เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีโอกาสเกิดอันตรายต่ออวัยวะภายในได้ง่าย เพราะต้องเจาะเข้าไปถึงอวัยวะภายใน ถ้าแพทย์ไม่มีความชำนาญมากพออาจจะไปโดนกระเพาะ ลำไส้ หรืออาจจะเสียเลือดมากเกินไป และใช้เวลายาวนาน รองลงมาจะเป็นการศัลยกรรมที่ต้องมีการตัดกระดูกบนใบหน้าหรือตัดกราม เพราะเป็นส่วนที่ใกล้กับบริเวณลำคอ อาจจะทำให้บวม ถ้ามีเลือดออกมันก็จะไหลลงมาที่ลำคอทำให้บวม หายใจไม่ออก การดึงหน้าก็ต้องระวังเรื่องเส้นประสาท อาจทำให้ปากเบี้ยว ไม่มีผลต่อชีวิตแต่อาจทำให้เกิดความผิดปกติได้ หน้าอกก็มีความเสี่ยงถ้าไปกระทบกระเทือนกับปอด พวกนี้เป็นการผ่าตัดที่ใกล้อวัยวะที่สำคัญ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าไม่ระวัง แต่โดยรวมแล้วถ้าแพทย์มีความชำนาญและระมัดระวังในการผ่าตัด ก็มีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดอันตราย”
10 อันดับ ศัลยกรรมยอดนิยม
1. จมูก
จมูกถือว่าเป็นส่วนที่เป็นองค์ประกอบของความสวยงามบนใบหน้าเป็นอันดับต้นๆ เพราะเป็นส่วนที่จะสะท้อนถึงบุคลิกภาพอันสง่างามและสร้างความมั่นใจให้กับเรา แต่ชาวเอเชียเป็นคนที่มีสันจมูกกว้างและแบน รวมไปถึงรูจมูกที่ใหญ่ ไม่ได้สัดส่วน และไม่เข้ากับรูปหน้า ดังนั้นการศัลยกรรมผ่าตัดเสริมจมูกและการตัดปีกจมูกจึงเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้สันจมูกโด่งขึ้น และมีรูปทรงที่สวยงามมากขึ้น ซึ่งการเสริมจมูกเพียงจุดเดียวก็ช่วยให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ทำให้หน้าดูมีมิติขึ้นได้ โดยปัจจุบันมีวิธีการเสริมจมูกที่ปลอดภัย และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลของวงการศัลยกรรม ได้แก่ การเสริม Silicone เพราะมีความคงตัว ไม่เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา สามารถถอดออกได้ทั้งหมด ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
2. ตา
ดวงตาเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญบนใบหน้าไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ยิ่งการมีดวงตาที่ดูสดใสจะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการที่มีตาสองชั้น จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนกว่าวัย แต่โดยทั่วไปแล้วคนเอเชียมักมีตาชั้นเดียว หรืออาจมีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่มีขนาดเล็ก หรือมีไขมันที่เปลือกตา ทำให้ชั้นตาดูไม่ชัดเจน ความสดใสของดวงตาจึงดูลดน้อยลง การทำศัลยกรรมตาสองชั้น จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มความงามให้มีมากขึ้น ซึ่งเทคนิคการทำโดยทั่วไปแล้วแพทย์จะใช้เครื่องมือในการผ่าตัดกรีดบริเวณผิวหนังที่ได้กำหนดแนวไว้ แล้วตัดผิวหนังและไขมันส่วนเกินออก หลังจากนั้นจะทำการเย็บกำหนดชั้นตามที่ต้องการ ก่อนที่จะเย็บปิดแผลที่ผิวหนังด้านนอก
3. หน้าอก / เต้านม
การรับประทาน หรือการใช้ฮอร์โมนเพศหญิงนั้นแม้จะทำให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้นก็จริง แต่สำหรับสาวประเภทสองนั้นอาจไม่เพียงพอ และขนาดหน้าอกก็อาจไม่ใหญ่เป็นที่น่าพอใจ การเสริมเต้านมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยใช้เต้านมเทียมที่ทำจากวัสดุที่มีมาตรฐานมาใช้ทำเป็นเต้านมเทียม ได้แก่ ถุงเต้านมเทียมผิวทราย บรรจุซิลิโคนเนื้อเจลถุง, เต้านมเทียมผิวเรียบ บรรจุซิลิโคนเนื้อเจล, ถุงเต้านมเทียมผิวเรียบ บรรจุน้ำเกลือชนิดเติม และถุงเต้านมเทียมผิวเรียบ บรรจุน้ำเกลือสำเร็จรูป ซึ่งแพทย์จะเปิดแผลใต้ราวเต้านม หรือใต้รักแร้ หรือปานนม และวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ ถึงแม้ว่าการเสริมเต้านมในสาวประเภทสอง และผู้หญิงทั่วไปมีวิธีการผ่าตัดที่ไม่แตกต่างกันนัก แต่ลักษณะทางกายภาพนั้นแตกต่างกัน เนื้อของสาวประเภทสองนั้นจะมีลักษณะเนื้อที่ตึงและมีไขมันน้อยกว่าผู้หญิง
ในขณะเดียวกันยังมีอีกหลายคนที่มีขนาดเต้านมใหญ่เกิน ไม่สมดุลกับตัว ทำให้มีปัญหาเรื่องการปวดหลัง หรือปวดเมื่อยบริเวณหัวไหล่ เพราะต้องแบกรับน้ำหนักของหน้าอกเอาไว้ รวมทั้งปัญหาการแต่งตัว การผ่าตัดลดขนาดของเต้านม จึงเป็นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำช่วยทำให้เกิดความพอดีและสวยงาม โดยอาศัยวิธีการดูดไขมันจากเต้านม ในผู้ที่มีขนาดหน้าอกไม่ใหญ่มากนัก แต่ข้อเสียคือไม่สามารถควบคุมรูปทรงของเต้านมได้ดี และไม่สามารถกำหนดขนาดที่ต้องการได้ตามความพอใจ อีกวิธีคือการผ่าตัดเต้านม สำหรับผู้ที่มีขนาดหน้าอกใหญ่มาก โดยแพทย์จะทำการผ่าเลาะผิวหนังออกคล้ายรูปตัวทีหงาย และตัดเอาไขมันและเนื้อออก เพื่อ ให้ได้เต้านมตามขนาดที่ต้องการ จากนั้นจะเย็บผิวหนังและหัวนมกลับเข้าที่ วิธีนี้จะได้หน้าอกตามขนาดและรูปทรงใกล้เคียงกับที่ต้องการ แต่อาจมีแผลเป็นที่เห็นชัดเจน
4. คาง
การเสริมคางเป็นการช่วยให้ใบหน้าของบางคนได้สัดส่วนและมีความสมดุลมากขึ้น เพราะมีหลายคนที่พบปัญหาคางสั้น ทำให้ใบหน้าดูกลม ไม่เรียวงาม จึงทำให้มีการศัลยกรรมเสริมคางมาเป็นตัวช่วยให้ใบหน้าเรียวและมีสัดส่วนที่สวยงามมากขึ้น การศัลยกรรมคางนั้นมีอยู่หลายวิธี แต่นิยมทำอยู่ 2 วิธี คือ เสริมด้วยซิลิโคนแท่ง นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมน้อย หรือปานกลาง ด้วยความสูงที่ไม่เกิน 0.5 มม. เป็นการผ่าตัดที่ง่าย ใช้เวลาไม่นาน อีกวิธี คือ เสริมโดยวิธีเลื่อนกระดูกคางให้ยื่นไปข้างหน้า จะใช้ในกรณีของผู้ที่มีคางสั้นมาก ต้องผ่าตัดกระดูกคางเลื่อนออกมาภายใต้การดมยาสลบ ส่วนตำแหน่งของแผลผ่าตัดเสริมคางจะมีอยู่ 2 แบบ คือแบบมีแผลภายในปาก ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมทำกันมาก เพราะมองไม่เห็นแผลจากภายนอก และแบบมีแผลใต้คาง ซึ่งจะเห็นแผลเป็นชัดเจน จึงไม่ค่อยนิยมกันมากนัก
5. กราม
ชาวเอเชียหลายคนมีปัญหาใบหน้ากว้าง ซึ่งเกิดจากการที่มีกรามใหญ่เกินไป จนทำให้ใบหน้าดูไม่ได้สัดส่วนที่สวยงาม การตัดกราม หรือกรอกราม เลยเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ใบหน้าแคบและเรียวได้สัดส่วน โดยการตัด หรือกรอกรามจะทำเฉพาะส่วนที่เป็นกระดูกเท่านั้น แพทย์จึงต้องเอกซ์เรย์กระดูกกรามและฟันก่อนเพื่อวางแผนการผ่าตัด สำหรับวิธีการผ่าตัดจะใช้ในกรณีที่มีขนาดกรามที่ใหญ่พอสมควร มีการผ่าตัดอยู่สองแบบ คือ แผลผ่าตัดอยู่นอกช่องปาก โดยจะเปิดแผลใกล้ๆ มุมกรามด้านนอก ความยาวประมาณ 3-5 ซม. ผ่านกล้ามเนื้อจนถึงกระดูกกราม และใช้เลื่อยตัดกระดูกกรามออก แล้วกรอกระดูกที่เหลือให้เรียบเนียน และปิดแผล แต่วิธีนี้มีโอกาสทำให้เส้นประสาทที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อมุมปากกระทบกระเทือนได้ อาจทำให้มุมปากตก อีกวิธี คือ แผลผ่าตัดอยู่ภายในช่องปาก โดยเปิดแผลผ่าตัดประมาณ 3-5 ซม. ซึ่งอยู่หลังฟันกรามซี่สุดท้าย แล้วค่อยๆ เปิดแผลผ่านกล้ามเนื้อที่คลุมกรามออก จากนั้นเลาะเยื่อหุ้มกระดูกออกและเลื่อยกระดูกออกมา แล้วเย็บปิดแผล วิธีนี้ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์พอสมควร แต่มีข้อดีคือช่วยลดการกระทบกระเทือนของเส้นประสาทที่นำไปเลี้ยงมุมปาก
ในกรณีที่ลดขนาดกรามที่ไม่ใหญ่มากนัก จะนิยมใช้วิธีกรอเพื่อลดความหนาของกระดูกประมาณ 2-3 มม. จะเปิดแผลผ่าตัดเหมือนกับผ่ากราม แล้วใช้เครื่องมือกรอกระดูกแทนการเลื่อย ช่วยให้ใบหน้า แคบและเรียวสวยได้เช่นเดียวกัน
6. โหนกแก้ม
การผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม เป็นอีกสิ่งหนึ่งสำหรับคนที่มีปัญหาโหนกแก้มต่ำและแคบ โดยต้องการปรับระดับให้มีความสูงและกว้างขึ้น ทำให้ใบหน้าส่วนกลางมีความสมดุล และให้ความรู้สึกที่อ่อนหวาน ซึ่งแพทย์จะทำการเปิดแผลในปาก หรือเปิดแผลใต้ขนตาล่าง และวางซิลิโคนที่ตัดแต่งแล้ว บนโหนกแก้มเดิม จากนั้นเย็บปิดแผลโดยไม่ต้องตัดไหมด้วยการใช้ไหมละลาย
และในขณะเดียวกันปัญหาโหนกแก้มสูงและเห็นกระดูกชัดเจน ก็มีมากสำหรับชาวเอเชีย ซึ่งแพทย์จะทำการลดความสูงของกระดูกโดยวิธีการกรอ แต่อาจจะลดความสูงได้ไม่มาก ในกรณีที่มีกระดูกสูงมากต้องใช้วิธีการตัดกระดูก การกรอ หรือตัดโหนกแก้ม
7. ปาก
ความสมบูรณ์บนใบหน้าที่เกิดจากความสวยงามของริมฝีปาก เป็นส่วนที่เริ่มจะมีความนิยมมากขึ้น แต่โดยปกติแล้วคนไทยจะมีริมฝีปากหนา ทำให้ดูไม่สวยงามมากนัก เลยอยากจะมีริมฝีปากที่บางแต่เอิบอิ่ม เผยอขึ้นเล็กน้อยเห็นไรฟัน เป็นรูปกระจับ โดยแพทย์จะผ่าตัดที่ขอบล่างของจมูกเพื่อตัดริมฝีปากบางส่วนออก พร้อมทั้งฉีดริมฝีปากบางให้อวบอิ่มด้วย Collagen หรือ Hyaluranic Acid ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมในปัจจุบัน และจะอยู่ได้นาน 8 เดือนถึง 1 ปี ส่วนการฉีดริมฝีปากด้วยไขมันตัวเอง วิธีนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยม เนื่องจากเซลล์ไขมันอาจจะสลายภายใน 3-6 เดือน และจะมีอาการบวมหลังฉีด
8. ดูดไขมัน และตัดไขมันหน้าท้อง
คนทั่วไปโดยปกติเมื่อมีอายุมากขึ้น การเผาผลาญพลังงานในร่างกายก็น้อยลง ทำให้เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินตามบริเวณต่างๆ เช่น หน้าท้อง สะโพก ก้น ต้นขา ต้นแขน คอ ฯลฯ และการสะสมของไขมันตามร่างกาย ก็จะทำให้รูปร่างของคนเราเปลี่ยนไป ไม่สวยงามเหมือนเมื่อตอนอายุยังน้อย และไม่สามารถกำจัดออกได้เอง จึงต้องพึ่งการศัลยกรรมดูดเอาไขมันส่วนเกินเหล่านี้ออกจากบริเวณต่างๆ ที่มีการสะสมอยู่ ให้มีความกระชับมากขึ้น แต่ไม่ได้เป็นการช่วยลดความอ้วนได้อย่างที่หลายคนเข้าใจกัน
ในกรณีที่จะดูดไขมันออกเพียงจุดเดียว และมีไขมันปริมาณไม่มาก อาจใช้ยาชา แต่ถ้าดูดไขมันหลายจุด และปริมาณมากจะต้องทำภายใต้การดมยาสลบ เจาะผิวหนังขนาด 0.5 มม. เพื่อใส่เข็มดูดไขมัน และทำการดูดด้วยเครื่องดูดไขมัน เมื่อเสร็จสิ้นการดูดไขมัน แพทย์จะเย็บปิดแผลซึ่งเล็กประมาณ 1-2 เข็มเท่านั้น
อีกหนึ่งอย่างที่ได้รับความนิยมพอๆ กับการดูดไขมัน คือ การตัดไขมันหน้าท้อง เป็นการศัลยกรรมสำหรับผู้ที่ต้องการผ่าตัดไขมันและผิวหนังส่วนเกินออก เพื่อให้รูปร่างและทรวดทรงดูดี สมส่วนยิ่งขึ้น การตัดไขมันหน้าท้องใช้ดมยาสลบ และรอยแผลจะมีลักษณะเป็นเส้นยาวอยู่เหนือบริเวณหัวเหน่า อาจจะยาวถึงสะโพกทั้ง 2 ข้าง ขึ้นอยู่กับไขมันและผิวหนังส่วนเกิน คนที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนมีไขมันมาก และหน้าท้องแตกลายจากการคลอดบุตร จะใช้วิธีผ่าตัดตั้งแต่เหนือสะดือ ส่วนคนที่มีไขมันไม่มาก แต่ต้องการแก้ปัญหาหน้าท้องลาย จะผ่าตัดบริเวณใต้สะดือ
9. ดึงหน้า
กลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 50-60 ปี ขึ้นไป มักพบกับปัญหาความหย่อนคล้อยของแก้ม คาง และบริเวณคอ แต่ก็อาจพบในคนที่มีอายุน้อยกว่าก็เป็นได้ ในบางรายมีไขมันสะสมในบริเวณแก้มและใต้คางก็จะใช้วิธีการดูดไขมันประกอบด้วย ผลของการผ่าตัดจะทำให้มีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น ในการผ่าตัดดึงหน้า ทีมแพทย์จะต้องใช้วิธีการผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพและระมัดระวังสูง เพราะใบหน้าของคนไข้จะมีเส้นประสาทที่สำคัญๆ อยู่หลายเส้น ถ้าไม่ระมัดระวังจะก่อให้เกิดปัญหาเส้นประสาทขาดได้ โดยแผลผ่าตัดจะอยู่บริเวณเหนือไรผมด้านบน และอยู่หลังใบหูซึ่งจะมองไม่เห็น
10. แปลงเพศ
เนื่องจากปัจจุบันนี้สังคมให้การยอมรับในเรื่องของเพศที่สามมากขึ้น ทำให้หลายคนที่เป็นผู้ชายแต่มีจิตใจเป็นหญิง และเป็นผู้ชายที่มีจิตใจเป็นชาย เริ่มให้ความสนใจในการผ่าตัดแปลงเพศมากขึ้น โดยเฉพาะผ่าตัดศัลยกรรมแปลงเพศจากชายเป็นหญิง ที่ดูว่าจะมีปริมาณความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนเริ่มจากการศัลยกรรมใบหน้าให้มีความอ่อนหวาน นุ่มนวลมากขึ้น พร้อมศัลยกรรมเสริมหน้าอก ตัดลูกกระเดือก ตลอดจนผ่าตัดอวัยวะเพศ ส่วนการศัลยกรรมแปลงเพศจากหญิงเป็นชายในสังคมไทยถือว่ายังมีไม่มากนัก เพราะส่วนมากจะใช้วิธีซ่อนรูปและการวางตัว แต่ก็ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่แปลงเพศให้เป็นผู้ชายไปเลย ซึ่งมีความซับซ้อนมากกว่าการแปลงเพศจากหญิงเป็นชาย เนื่องจากมีหลายขั้นตอนและต้องอาศัยเวลา ตามปกติจะเริ่มจากการตัดหน้าอก ตัดมดลูก และรังไข่ ขั้นตอนที่สอง คือ การปิดช่องคลอด เตรียมท่อปัสสาวะ และฝังท่อเพื่อเตรียมท่อปัสสาวะ และขั้นตอนที่สาม คือ การสร้างอวัยวะเพศชาย ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการแสดงออกถึงความเป็นเพศชายที่สมบูรณ์แบบ
|