มาร์การิต้า โฟเร่ส์ คว้ารางวัลสุดยอดเชฟหญิงแห่งเอเชีย ในงานประกาศรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียปี 2016
category: Lifestyle
tag: 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียปี 2016 มาร์การิต้า โฟเร่ส์ รางวัลสุดยอดเชฟหญิง
มาร์การิต้า โฟเร่ส์ เชฟสาวมากฝีมือผู้ได้รับการยกย่องนับถือในวงการอาหาร และเป็นเจ้าของเครือธุรกิจร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสุดยอดเชฟหญิงแห่งเอเชียประจำปี 2016

ผลรางวัลสุดยอดเชฟหญิงแห่งเอเชีย ได้รับการโหวตจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญในวงการอุตสาหกรรมอาหารกว่า 300 ท่านจากทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย โดยผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ยังเป็นผู้จัดทำรายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย โดยมีซานเปลเลกริโน (S.Pellegrino) และอัคควาปันน่า (Acqua Panna) เป็นผู้สนับสนุนหลักของงานด้วย นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา มีเชฟหญิงฝีมือยอดเยี่ยมหลายท่านได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ในฐานะผู้มีทักษะชั้นเลิศด้านศิลปะการประกอบอาหาร และมีเจตนารมณ์ที่ดีในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งทำให้พวกเธอได้รับการยอมรับนับถือและเสียงชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร รวมทั้งเชฟร่วมวงการเดียวกันเป็นอย่างดี


มาร์การิต้าเริ่มชื่นชอบศิลปะการประกอบอาหารแบบอิตาเลียนขนานแท้ในระหว่างทริปท่องเที่ยวอิตาลีในปี 2529 เธอได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมอิตาเลียนท้องถิ่น และพัฒนาทักษะการทำอาหารระหว่างทำอาหารทานที่บ้านรวมทั้งมีโอกาสไปเที่ยวชมตลาดท้องถิ่นในเมืองฟลอเรนซ์ มิลาน และกรุงโรมด้วย แม้มาร์การิต้าจะร่ำเรียนวิชาบัญชีจนได้รับตำแหน่งผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ทว่าเมื่อเดินทางกลับสู่ฟิลิปปินส์ ประสบการณ์ด้านอาหารที่เธอได้รับที่อิตาลี ทำให้เธอมีแรงบันดาลใจและมุ่งมั่นที่จะเอาดีด้านศิลปะการทำอาหารตามความชื่นชอบของตนแทน

ในปี 2530 มาร์การิต้าได้เปิดธุรกิจบริการด้านอาหารที่มีชื่อว่า Cibo Di M ซึ่งได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในด้านการจัดเลี้ยงที่น่าประทับใจ บริการเป็นเลิศ และมีลูกค้าระดับวีไอพีหมุนเวียนมาใช้บริการไม่ขาดสาย สิบปีต่อมา มาร์การิต้าจึงได้เปิดร้านอาหารอิตาเลียนร้านแรกของเธอที่มีชื่อว่า Ciboขึ้น โดยใช้คอนเซปต์ร้านสไตล์ท้องถิ่นและวัตถุดิบจากธรรมชาติ ในการนำเสนอเมนูอาหารอิตาเลียนดั้งเดิมให้นักชิมชาวฟิลิปปินส์ได้ลิ้มลอง และนับตั้งแต่เปิดร้านมาเป็นเวลากว่า 18 ปีปัจจุบันร้าน Ciboได้ขยายเพิ่มออกไปอีก 10 สาขาทั่วกรุงมะนิลา
เพื่อต่อยอดความสำเร็จของร้าน Cibo มาร์การิต้าได้เปิดร้านอาหารอีกสองแห่งในคอนเซปต์ที่แตกต่างกัน ได้แก่ ร้าน Lussoที่เป็นร้านแชมเปญและแกสโตรบาร์แบบหรูหรามีรสนิยม และร้าน Grace Park ร้านอาหารอิตาเลียนที่เน้นเรื่องวัตถุดิบที่ส่งตรงจากฟาร์มและนำมาปรุงแต่งเป็นเมนูอาหารเลิศรสให้แก่ลูกค้า ทั้งสองร้านอาหารนี้ มาร์การิต้าตั้งใจที่จะนำเสนอเมนูอาหารอิตาเลียนที่มีคุณภาพ รังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบท้องถิ่นที่สดสะอาดที่สุด ภายใต้บรรยากาศอันสนุกสนานรื่นรมย์

ในฐานะนักวิชาการและนักชิมผู้มีรสนิยมชั้นดีเรื่องอาหาร มาร์การิต้ากระตือรือร้นที่จะร่วมแบ่งปันความรู้เรื่องการปรุงอาหารอิตาเลียนของเธอให้กับบรรดาเชฟรุ่นใหม่ได้รับรู้ ในปี 2556 เธอจึงได้ร่วมกับสถาบันอาหาร CasaArtusiสถาบันอาหารอิตาเลียนอันเก่าแก่ในเมือง Forlimpopoliทางตอนเหนือของอิตาลี เพื่อเปิดสถาบันอาหาร Casa Artusiประจำประเทศฟิลิปปินส์ ที่กรุงมะนิลา โดยสถาบันดังกล่าวถือเป็นสาขาต่างประเทศแห่งแรกและแห่งเดียวของโรงเรียนสอนทำอาหารอิตาเลียนชื่อดัง และเน้นสอนนักเรียนเรื่องเทคนิคดั้งเดิมของการปรุงอาหารอิตาเลียนแบบทำทานเองที่บ้าน

แม้มาร์การิต้าจะเป็นที่รู้จักถึงทักษะความสามารถในการปรุงอาหารอิตาเลียนแบบขนานแท้ แต่เธอก็ยังสามารถปรุงอาหารฟิลิปปินส์ออกมาได้รสชาติโดดเด่นไม่แพ้ใคร มาร์การิต้ายังได้ทำตามคำมั่นสัญญาที่จะโปรโมทอาหารบ้านเกิดให้ทั่วโลกได้รู้จักมากขึ้น ด้วยการร่วมเขียนหนังสือชื่อ Kulinarya ซึ่งเป็นตำรารวมเมนูอาหารท้องถิ่นชื่อดังของฟิลิปปินส์เข้าไว้ด้วยกัน
มร. วิลเลี่ยม ดรูว์ กรุ๊ปเอดิเตอร์ของงาน 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย กล่าวว่า “มาร์การิต้า โฟเร่ส์ เป็นผู้ที่เหมาะสมคู่ควรกับรางวัลสุดยอดเชฟหญิงแห่งเอเชียในปีนี้ ด้วยบทบาทความเป็นผู้นำในวงการธุรกิจร้านอาหารของฟิลิปปินส์ รวมถึงการทุ่มเทอุทิศตน ทักษะความเชี่ยวชาญด้านอาหาร และความมุ่งมั่นอุตสาหะที่จะริเริ่มสิ่งใหม่ๆ เพื่อยกระดับวงการอาหารของประเทศบ้านเกิด มาร์การิต้าได้ช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ที่สำคัญยิ่งให้เชฟและเจ้าของธุรกิจร้านอาหารท่านอื่นๆ ได้เดินรอยตาม”


|