เครือข่ายลดบริโภคเค็มเตือนช่วงเทศกาลกินเจ ให้ระวังอย่าปรุงเค็มจัด

 

เครือข่ายลดบริโภคเค็มห่วงใยประชาชน เตือนใช้ช่วงเทศกาลกินเจระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารและระวังเครื่องปรุงรสที่มีรสเค็มเพิ่มรสชาติอาหาร เน้นให้รับประทานโซเดียมในปริมาณที่พอดีจะทำคนไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้า

นอกจากนี้ยังฝากถึงพุทธศาสนิกชน ให้หันมาใส่ใจในการถวายอาหารแด่พระสงฆ์ลดปริมาณเค็มลง หลังจากพบว่ามีพระสงฆ์ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ( NCDS) มากขึ้น

 


ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดการบริโภคเค็ม

 

            ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดการบริโภคเค็ม กล่าวว่าในช่วงของเทศกาลกินเจ ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20-28 ตุลาคมนี้ ทางเครือข่ายบริโภคลดเค็ม ขอใช้โอกาสนี้รณรงค์ให้ประชาชนทั่วไป ลดปริมาณโซเดียมในอาหารที่ตนเองบริโภคแต่ละมื้อ โดยเฉพาะเครื่องปรุงรสต่าง ๆ เมื่อรับประทานโซเดียมในปริมาณที่พอดี ก็จะทำคนไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้า สามารถประหยัดงบประมาณการรักษาพยาบาลของประเทศชาติได้มากขึ้น ทั้งนี้การบริโภคเกลืออและโซเดียมในระดับสูง เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจถึงปีละ 78,976 ล้านบาท จากโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือสูญเสียงบประมาณในการรักษาโรคเบาหวานกว่า 24,489  ล้านบาท และสูญเสียงบประมาณจากโรคไตวายระยะสุดท้ายกว่า 15,000 ล้านบาท 

 


 


         โดยปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการบำบัดทดแทนไตโดยการล้างไตทางช่องท้องหรือการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเฉลี่ยประมาณ 240,000 บาทต่อคนต่อปี โดยค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายด้วยยา ค่าใช้จ่ายทางอ้อมอื่น ๆ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต้องใช้งบประมาณในการล้างไตเป็นการเฉพาะ  แยกจากงบบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว (Capitation) โดยในปีงบประมาณ 2558 สูงถึง 5,247 ล้านบาทและจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 6,318 ล้านบาท ใน พ.ศ. 2559 ซึ่งถ้ารวมงบประมาณ สำหรับบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรังในสิทธิอื่นๆ ได้แก่ สิทธิประกันสังคมและสวัสดิการข้าราชการแล้ว รัฐจำเป็นต้องใช้งบสูงกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้สังคมไทยในปัจจุบัน มีประชาชนป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไปเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังพบว่าอัตราการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตวายเพิ่มขึ้นอย่างมาก และพบว่าการสูญเสียปีสุขภาวะจากโรคไม่ติดต่อหรือโรคเรื้อรังคิดเป็น 50% ซึ่งสูงกว่าโรคติดต่อถึง 3 เท่า 

 


 

 


 


           คนไทยได้รับเกลือเฉลี่ยจากการรับประทานอาหาร 10.8 กรัมต่อวันต่อคน คิดเป็นปริมาณเกลือโซเดียมที่ได้มากถึง 4,351.69 มิลลิกรัมต่อวันต่อคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนไทยได้รับเกลือในปริมาณที่มากกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวันเกือบ 2 เท่าโดย 8 กรัมของเกลือนั้นมาจากเครื่องปรุงรส  ส่วนอีก 2 กรัมของเกลือมาจากแหล่งธรรมชาติ   และ 0.8 กรัมของเกลือมาจากอาหารข้างทาง/หาบเร่/อาหารกินเล่น ซึ่งการที่ร่างกายได้รับโซเดียมในปริมาณที่สูงทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง นอกจากนั้นยังทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจห้องซ้ายหนา (Left ventricular hypertrophy) และเกิดการสะสมของผังพืดในกล้ามเนื้อหัวใจ และหลอดเลือด และยังมีผลกระทบโดยตรงต่อไต ซึ่งไตเป็นอวัยวะหลักที่ทำหน้าที่กำจัดโซเดียม โดยทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้นจากการทำงานหนักและโปรตีนรั่วในปัสสาวะ และความเสื่อมนั้นจะคงอยู่ตลอดไปแม้จะมีการลดปริมาณโซเดียมลงในภายหลัง ซึ่งล้วนแต่มีสาเหตุจากการได้รับเกลือและโซเดียมปริมาณสูง ดังนั้นการลดความดันโลหิตและโปรตีนในปัสสาวะ จะช่วยป้องกันลดการสูญเสียการทำงานของไตและภาวะแทรกซ้อนเป็นบ่อเกิดของโรคหัวใจและหลอดเลือด 

 


 


           ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า การลดการบริโภคเค็มจะต้องครอบคลุมไปถึงพระสงฆ์ด้วย โดยที่ผ่านมาอยากให้พุทธศาสนิกชน หันมาใส่ใจในการถวายอาหาร โดยประชาชนทั่วไปที่จะทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ให้ระมัดระวังเรื่องการใส่บาตรพระ โดยเฉพาะอาหารที่จัดถวาย ควรเป็นอาหารที่ปรุงรสให้พอดี ไม่เค็มจัดหรือหวานจัดจนเกินไป โดยอาหารที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษและเป็นอาหารที่นิยมถวายแด่พระสงฆ์ เช่น พวกอาหารแห้ง ประเภท บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รสต้มยำต่าง ๆ หรือรสหมูสับ จะเค็มมาก และก็จำพวกแหนม ปลากระป๋อง ส่วนพวกที่นิยมบริโภคแบบเป็นประจำ ก็จะเป็นแกงเขียวหวาน ไข่พะโล้ พวกผัดต่าง ๆ พวกนี้จะมีความเค็มสูงต้องระมัดระวัง เพราะฉะนั้นหากท่านจะถวายอาหาร ท่านควรจะถวายอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ถ้าเป็นไปได้ควรทำเอง ถือว่าให้พระสงฆ์ได้ฉันท์อาหารที่ดีต่อสุขภาพ และหวานมันเค็มน้อย  ถ้าหากเราถวายอาหารที่มีความเค็มจัดหวานจัดโดยที่เรารู้เท่าไม่ถึงการณ์ จะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพของพระสงฆ์ได้ ดังนั้น เราควรช่วย ๆ กัน  หากเป็นไปได้ควรทำอาหารด้วยตนเองหรือไม่ก็บอกแม่ค้าว่าอาหารของพระสงฆ์ควรจะมีรสชาติอ่อน ๆ หรือกำลังพอดี ๆ และไม่หวานไม่เค็มไม่มันจนเกินไป รวมถึงอาหารของเด็กด้วยก็เป็นสิ่งสำคัญ

 


 

 


 


             ทั้งนี้ขอย้ำถึงความสำคัญเกี่ยวกับการบริโภคเกลือ (โซเดียม) ปริมาณมาก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขยังมีนโยบายให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ลดบริโภคเกลือโซเดียมแห่งชาติ โดยกำหนดเป้าหมายหลักในการพัฒนาลดปัญหาโรควิถีชีวิตที่สำคัญ ได้แก่  ความดันโลหิตสูง หัวใจ หลอดเลือดสมอง และไตเรื้อรัง ใน 4 ด้าน คือ ลดการเกิดโรค ลดภาวะแทรกซ้อน ลดการตาย ลดภาระค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังเพิ่มวิถีชีวิตพอเพียงใน 2 ด้าน คือ การบริโภคที่เหมาะสมและการออกกำลังกายที่เพียงพอ ซึ่งคาดหวังผลลัพธ์ของการพัฒนาว่าจะทำให้ประชาชนมีศักยภาพในการจัดการปัจจัยเสี่ยงและสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อโรควิถีชีวิต ด้วยการรวมพลังขับเคลื่อนจากทุกภาคส่วนอย่างบูรณาการ สมดุล ยั่งยืน และเป็นสุข บนพื้นฐานของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 

 


 

 

 

 

More
หยุดวงจร HIV เริ่มที่เรา! แพทย์ชี้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือ เร่งสร้างความเข้าใจ-ป้องกันถูกวิธี ลดการแพร่ระบาด
GSK เสริมภูมิคุ้มกันทุกวัย หนุน Silver Aging สู่สังคมไทย เนื่องในวันประชากรโลก
คาด 2568 มะเร็งปอดขึ้นเป็นภัยร้ายอันดับหนึ่ง พบหญิงไทยไม่สูบบุหรี่ป่วยติดอันดับ 2 ของโลก
ไขข้อข้องใจ “โรคกระดูกสันหลัง” เกิดจากพันธุกรรม หรือพฤติกรรม?
นวัตกรรม “การผ่าตัดไร้รอยแผล” ทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งผลลัพธ์การรักษาและความงาม
Others
ฤดูกาลความอร่อยกับผลไม้ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้ไทยกลับมาอีกแล้ว
“เมลินดา” บิวตี้แบรนด์สัญชาติไทย สุดเจ๋ง! คว้า 3 รางวัลยอดขายสูงสุด ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน ในงาน EVEANDBOY BEST SELLING AWAR...
ผู้สูงวัยกับการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด Aging & Lifelong Learning
6 สิ่งที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับเคเอฟซี ไก่ทอดสูตรต้นตำรับที่อร่อยเกินห้ามใจ
3 เซเลบริตี้ร่วมเวิร์คช็อปเปิดตัว “ไมโล สูตรไม่มีน้ำตาลทราย” ใหม่!
Latest
โฟร์ท ณัฐวรรธน์ มูฟขึ้นแท่น FACE OF MAYBELLINE นำเสนอความเนียนในรูปแบบใหม่! Maybelline Thailand
“Bambi The Reckoning- แบมบี้” ความสยองอันดับที่ 4 ในจักรวาล Twisted Childhood พร้อมให้คอหนังพิสูจน์ความน่าสะพรึงกลัว 4 ก...
เปิดตัว โครงการการกุศลบทกวีจากเครื่อง POS UnionPay ครั้งแรกในประเทศไทย “แสงกวีส่องดวงใจ (Poetry Lights the Heart's Lante...
iblanc Langsat Sun Protection SPF50 PA++ กันแดดยุคใหม่ เข้าใจทุกผิว เบลอผิว เบลอสิว ไม่อุดตัน
Taylor Swift เซอร์ไพรส์! เตรียมปล่อย The Life of a Showgirl อัลบั้มใหม่ชุดที่ 12 ได้ Sabrina Carpenter ร่วมแจม

 

 

Top Hits
“พีพี กฤษฏ์” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์นมพิสทาชิโอแบรนด์ ซันคิสท์ แบรนด์ระดับโลก พร้อมร่วม ครีเอทเมนูสุดพิเศษด้วยนมพิสทาชิโอที่...
มัดรวมภาพประทับใจจากงาน เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา คอลแลปส์ แจ็คสัน หวัง เนรมิต “เดอะ ไฟน์เนส แมนชั่น”
Za DEEP HYDRATION ผิวเปล่งปลั่งอิ่มน้ำมีประกาย สวยตั้งแต่วินาทีนี้
ลดอาการปวดเมื่อยด้วย “ท่านอนที่ถูกวิธี”
Bruce Jenner ตัดสินใจเป็นผู้หญิงในวัย 65 ปี
“เก้า - สุภัสสรา” ชวนช้อปสนุกสุดฟิน กับบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน สิทธิพิเศษเหนือระดับ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ที่ศูนย์กา...
10 อันดับอาหารคอเลสเตอรอลสูง