ลดพุงให้ผอมเพรียว
category: Diet & Exercise
สาวๆหลายคนมีปัญหาพุงป่อง หน้าท้องยื่น เวลาน้ำหนักขึ้นนิดเดียว พุงก็ป่องแล้ว ยิ่งบางคนปล่อยตามใจปากจนตัวอ้วนกลมเป็นลูกแอปเปิ้ลยิ่งอันตรายต่อสุขภาพนะคะ
ไขมันที่ทำให้คุณอ้วนขึ้นนั้น ไม่ใช่ไขมันใต้ผิวหนัง แต่เป็นไขมันที่สะสมอยู่ภายในช่องท้อง ซึ่งเพิ่มแรงดันภายในท้อง ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจทำงานมากชึ้น และยังเสี่ยงต่อโรคเบาหวานอีกด้วย
ความจริงปัญหาน้ำหนักตัวมากเกินพิกัดจนถึงขั้นเป็นโรคอ้วนนั้น นำมาซึ่งปัญหาสุขภาพอีกมากมาย ทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งเบาหวาน ปัญหาที่ตับและไต ไขข้อเสื่อมเพราะต้องรับน้ำหนักตัว ทุกอวัยวะมีการอักเสบและเสื่อมในที่สุด เกิดปัญหาในทุกระบบที่เรียกรวมๆว่า Metabolic Syndrome แต่ข่าวดีก็คือเวลาคุณควบคุมอาหาร ออกกำลังกายที่เหมาะสม น้ำหนักตัวที่ค่อยๆลดลง มักมีผลให้หน้าท้องยุบ ลดพุงได้ก่อนเพื่อน
หากคุณสาวๆ ที่ไม่ได้อ้วน แต่หน้าท้องใหญ่พุงยื่น ก็ไม่ยาก ลดอาหารจำพวกแป้ง ลดอาหารแปลงสภาพจนจำไม่ได้ว่าทำมาจากอะไร เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง ไส้กรอก ลูกชิ้น ฯลฯ ซึ่งนอกจากจะไม่เหลือสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว ยังมีสารปรุงแต่งที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ด้วย และเพราะร่างกายมนุษย์ฉลาดเหลือเกิน เมื่อไหร่ที่มีสารพิษเข้าสู่ร่างกาย หากขับถ่ายออกไม่หมด ร่างกายก็จะส่งสารพิษเหล่านี้ไปเก็บไว้ในเซลไขมัน ป้องกันไม่ให้หลุดลอดออกมาทำร้ายส่วนอื่นๆของร่างกาย ดังนั้นหลายตำราที่ว่าด้วยการลดน้ำหนัก มักเน้นให้คุณเข้าโปรแกรมล้างพิษเสียก่อน
ควรเน้นการกินผักสดและผลไม้ที่ไม่หวานจัดให้ได้มากกว่า 60% ของอาหารในแต่ละมื้อ นอกจากผักและผลไม้สดที่ไม่หวาน เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง มะละกอ มะม่วงดิบ สาลี่ เบอรี่ต่างๆ ล้วนอุดมไปด้วยวิตะมิน เกลือแร่และสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อสุขภาพที่ดีแล้ว ยังมีเส้นใยไฟเบอร์ช่วยให้อิ่มอยู่ท้อง
ดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือไม่ต่ำกว่า 2 ลิตร น้ำจำเป็นต่อการทำงานของทุกๆเซลและทุกๆอวัยวะ รวมทั้งการเผาผลาญพลังงาน ยิ่งช่วงอยากลดพุง คุณคงต้องออกกำลังกายมากขึ้น ร่างกายสูญเสียเหงื่อมากขึ้น คุณจึงต้องดื่มน้ำเพิ่มขึ้นด้วย การดื่มน้ำสักแก้วก่อนอาหาร จะช่วยให้คุณอิ่มเร็ว กินอาหารได้น้อยลง ช่วยควบคุมอาหารไปด้วยในตัว
การลดน้ำหนักกระชับสัดส่วนที่ดี คงต้องมีการออกกำลังกายไปพร้อมๆกัน หากจะสลายไขมันที่สะสมมานาน การ ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที คงไม่พอ งานวิจัยล่าสุดแนะนำให้ออกกำลังกายไม่ต่ำกว่าสัปดาห์ละ 150 นาที หากคุณออกกำลังกายครั้งละ 30 นาที ก็คงต้องหาเวลาออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 5 ครั้ง หรือออกกำลังกายครั้งละ 50 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้งหรือมากกว่า และควรออกกำลังกายเฉพาะส่วน เล่นกล้ามหน้าท้องสักหน่อย ให้กล้ามเนื้อแข็งแรง หน้าท้องก็จะดูราบเรียบขึ้น
ควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว คุณอาจเร่งสลายไขมันหน้าท้องด้วยเทคโนโลยี่ทันสมัย ลองปรึกษาแพทย์ดู ปัจจุบันมีทั้งการสลายไขมันเฉพาะส่วนด้วยคลื่นวิทยุ RF (Radio-Frequency) หรือคลื่นเสียง Ultrasound ซึ่ง 2 วืธีนี้ต้องทำซ้ำๆหลายๆครั้งกว่าจะเห็นผล, หรือเทคนิคใหม่ใช้ความเย็นจัดทำให้เซลไขมันตาย และเทคนิคการฉีดสารสลายไขมันเข้าไปละลายไขมันโดยตรง ซึ่งน่าจะเป็นวิธีที่ช่วยให้เห็นผลเร็วที่สุด เจ็บตัวน้อย ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องทำบ่อยๆ 2 สัปดาห์/ครั้ง หากใครไขมันน้อยๆ ฉีดครั้งเดียวก็เห็นผลแล้ว สารที่ใช้สลายไขมันเฉพาะส่วนนั้น ได้แก่ ฟอสฟาทิดีล โคลีน หรือ เลซิติน เป็นตัวทำละลายไขมันตามธรรมชาตืที่พบได้ในไข่แดงและถั่วเหลือง ช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันอุดตันหลอดเลือด ใช่เป็นยาฉีดสลายไขมันในหลอดเลิอด และฉีดเข้าชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ช่วยสลายเซลลูไลท์ แต่ไม่สามารถสลายไขมันภายในช่องท้องได้
คงต้องใช้ความพยายามหลายๆอย่าง ทั้งควบอาหาร ลดหวาน-มัน-แป้ง ออกกำลังกายให้มากพอ และใช้เทคโนโลยีทันสมัยช่วยเสริมให้เห็นผลเร็วขึ้น คุณก็จะเป็นสาวเพรียว หน้าท้องราบเรียบได้ไม่ยาก
ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสาร slimming คอลัมน์ Stay health โดย แพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน
|