category: Movie & Drama
tag: หนังสั้น  Short Film

โครงการเยาวชนส่งเสียงเพื่อสื่อสารสังคมฯ ภายใต้ ‘สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน’ (สสย.) ผุดโปรเจคท์ ‘song of life (เพลงที่ยังแต่งไม่จบ)’ หวังให้เป็นหนังสั้นพลังบวกที่ช่วยปลุกพลังสร้างสรรค์เยาวชน

ผู้กำกับหนุ่มได้เล่าไว้อย่างน่าสนใจ “จุดเริ่มต้นของการทำหนังเรื่องนี้ มาจากการมีกลุ่มเยาวชนในโครงการเยาวชนส่งเสียงฯ ของสสย. ซึ่งพวกเขาเคยผ่านชีวิตเด็กแก๊งมา มีเรื่องตีรันฟันแทง เรื่องยาเสพติด เคยใช้ชีวิตด้านมืดมาก แต่ปัจจุบันนี้ พวกเขาได้กลับตัวกลับใจมาใช้ชีวิตด้านบวก และเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชนอีกมากมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เลยนำเรื่องราวบางมุมของพวกเขามานำเสนอในรูปแบบของหนังสั้น ซึ่งแต่ละคนมีเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาเยอะมาก แต่ละแง่มุมก็มีความน่าสนใจไปหมด ทุกแง่มุมสามารถสะท้อนสังคม หรือสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อสังคมได้ แต่ถ้าจะนำเสนอทุกแง่มุมเลยมันคงเป็นไปได้ยากในแง่ของความเป็นหนังสั้นที่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง”

“เนื้อหาของหนังสั้นเรื่องนี้ก็เป็นหนังรักใสๆ โรแมนติกดราม่า เล่าเรื่องของความหวังและโอกาสของวัยรุ่นชายหญิงคู่รักคู่หนึ่ง ที่มีความหวังเหมือนวัยรุ่นทั่วๆ ไป หวังว่าต้องได้เรียน ได้เที่ยว ได้ทำตามฝันของตัวเอง แต่สุดท้ายบางคนก็สมหวัง บางคนก็ผิดหวัง บางคนก็พลาดโอกาสสำคัญที่รอคอยมาทั้งชีวิต บางคนมีโอกาสทั้งชีวิตแต่ไม่เคยใช้มันเลย ถามว่าทำไมต้องเป็น Song of life (เพลงที่ยังแต่งไม่จบ) เราเปรียบง่ายๆ ว่าชีวิตคนเราเหมือนบทเพลง กว่าจะมาเป็นเพลงเพราะๆ สักเพลงมันต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก ผ่านความรู้สึกบางอย่าง ผ่านการคิดขัดเกลา มีเนื้อเพลง มีดนตรีแล้วรวมกันเป็นบทเพลง เหมือนอย่างตัวดำเนินเรื่องในหนังที่พยายามปั้นแต่งชีวิตตัวเอง พยายามทุกทางเพื่อไขว่คว้าหาโอกาสพยายามแต่งเพลงใส่ทำนองชีวิตตัวเองให้จบอย่างสมบูรณ์ แต่ทุกอย่างต้องพังทลายจากการก้าวพลาดแค่เพียงนิดเดียว เพลงชีวิตเขาเลยแต่งไม่จบ” 

“ก็ขออฝากหนังเรื่องนี้ไว้ด้วยนะครับ มีนาคม 61 นี้ ผ่านยูทูบ เสิร์ชคำว่า Song of life (เพลงที่ยังแต่งไม่จบ) ทีมงานทุกคนตั้งใจทำงานกันมาก เวลาที่เราทำงานทุกครั้ง มันคือการลงทุนลงแรงสรรพกำลังทุกอย่างใส่ไปในนั้น มันคือลมหายใจของคนที่รักการทำหนังเลยก็ว่าได้ ถ้าคนดูแล้วมีความสุขและได้แง่คิดอะไรจากหนังเรื่องนี้บ้างไม่มากก็น้อย คนเบื้องหลังอย่างพวกเราก็สุขใจแล้วครับ”

เรียกว่าเป็นการนำเสนออีกมิติหนึ่งของหนังสั้นเกี่ยวกับเด็กแก๊งค์ ที่แทบจะไม่มีฉากที่แสดงถึงความรุนแรงในหนังเลย นำเสนอด้วยความเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่ทว่างดงามด้วยตัวของมันเอง