พุ่งทะยานสู่ชัยชนะไปกับรองเท้าวิ่งตระกูล ADIZERO จากอาดิดาส แหวกทุกกฏเกณฑ์ความเร็ว แรงทะลุทุกขีดจำกัด

 

หากพูดถึงรองเท้าวิ่งระดับตำนานซึ่งสามารถสร้างประวัติศาสตร์และเข้ามาพลิกโฉมวงการวิ่งจากการแข่งขันทั่วโลก หลายคนคงนึกถึงรองเท้าวิ่งตระกูล ADIZERO

 

 


 

        รองเท้าวิ่งตระกูล ADIZERO ที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติการเป็นรองเท้าเพื่อฝึกซ้อมและแข่งขัน จนสามารถพานักวิ่งระดับอีลิทคว้าแชมป์โลกในรายการวิ่งกว่า 10 รายการ ทำลายสถิติโลกถึง 2 ครั้ง และคว้าชัยชนะในการแข่งขันวิ่งมาราธอนรายการหลักระดับโลกมากถึง 50% รวมถึงยังทำให้นักวิ่งระดับอีลิทชาวไทย อย่าง สัญชัย นามเขต คว้าแชมป์ในการแข่งวิ่งมาราธอนต่างๆ อาทิ ฮานอย ฮาล์ฟ มาราธอน 2022 อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน 2022 และล่าสุดอย่าง บุรีรัมย์ มาราธอน 2023 ขณะสวมใส่ ADIZERO Adios Pro 3 ในปีที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

        พัฒนาการ ผลงาน ตลอดจนรางวัลมากมายจากทั้งนักกีฬาและชุมชนนักวิ่งตลอด 19 ปีที่ผ่านมา เปรียบเสมือนผลลัพธ์แห่งความสำเร็จและการสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือทางด้านกีฬา (Sport Credibility) ที่อาดิดาสทุ่มเทพลังมากว่าหลายทศวรรษเพื่อพัฒนารองเท้าวิ่งที่สร้างนิยามใหม่ของคำว่าความเร็วให้เกิดขึ้น จนทำให้ชื่อเสียงของตระกูล ADIZERO เป็นที่เลื่องลือในวงการวิ่งทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้  

        อัลแบร์โต อุนชีนี มังกาเนลลี (Alberto Uncini Manganelli) ผู้จัดการทั่วไปและรองผู้อำนวยการของอาดิดาส รันนิ่ง กล่าวว่า “แม้ในปีที่ผ่านมา รองเท้าวิ่งตระกูล ADIZERO จะสร้างผลงานและความสำเร็จให้กับนักวิ่งทั่วโลกได้เป็นประวัติการณ์ แต่อาดิดาสก็ไม่เคยหยุดพักและยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดควบคู่ไปกับการผลักดันนักวิ่งทั่วโลกให้สามารถเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์ของอาดิดาสได้อย่างเต็มที่ และเรามั่นใจว่าในปีนี้ ADIZERO ก็จะยังคงเป็นตระกูลของรองเท้าวิ่งที่กวาดรางวัลระดับโลกได้มากที่สุดเช่นเดิม” 

รวดเร็วพร้อมรับทุกโอกาส 
       รองเท้าวิ่งตระกูล ADIZERO ได้กลายมาเป็นคู่หูสุดเพอร์เฟกต์สำหรับนักวิ่งผู้ทะเยอทะยาน เหมาะสำหรับทั้ง ใช้ซ้อมเพื่อการแข่งขัน (TRAIN TO RACE) และใช้ในวันแข่งขันชิงชัย (RACE TO WIN) โดยในปีนี้ก็กลับมาสร้างตำนานอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวเฉดสีใหม่สุดร้อนแรงอย่าง Solar Red และ Coral Fusion เพื่อเพิ่มสีสันและพลังให้กับนักวิ่งทุกคน

 

รองเท้าวิ่งสายทำความเร็ว: สำหรับวันแข่งขันเพื่อชิงชัยชนะ (RACE TO WIN)

       รองเท้าวิ่งกลุ่มนี้ถูกออกแบบอย่างเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี LIGHTSTRIKE PRO ที่สามารถรองรับแรงกระแทกและส่งพลังงานคืนกลับไปได้อย่างเต็มที่ รวมถึงพื้นรองเท้าชั้นนอกด้วยยาง Continental™ ที่มีคุณสมบัติช่วยยึดเกาะพื้นผิวทุกรูปแบบได้ดีแม้ในขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง ทำให้สามารถซัพพอร์ตการวิ่งทำความเร็วได้ยอดเยี่ยมและช่วยให้นักวิ่งพุ่งทะยานสู่ชัยชนะได้อย่างเต็มสูบ โดยรองเท้าวิ่งสายทำความเร็วในตระกูล ADIZERO ประกอบด้วย 4 รุ่นย่อย ดังนี้

 


 

ADIZERO ADIOS PRO 3 – รองเท้าวิ่งสายทำความเร็วรุ่นเรือธงของตระกูล ADIZERO ที่เข้ามาพลิกโฉมวงการวิ่งในปีที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ด้วยการช่วยคว้าชัยชนะในการแข่งขันวิ่งมาราธอนรายการหลักระดับโลกถึง 3 รายการ ภายในเวลาเพียง 5 เดือนหลังเปิดตัว ทั้งนี้ ADIZERO ADIOS PRO 3 ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักวิ่งสามารถทำความเร็วได้อย่างสูงสุดด้วยการวาง ENERGYRODS 2.0 แท่งคาร์บอนชิ้นเดียวตามแนวกระดูกฝ่าเท้าเพื่อมอบความแข็งแกร่งและส่งคืนพลังอย่างเต็มขั้น จำหน่ายในราคา 8,000 บาท

 


 

ADIZERO TAKUMI SEN 9 – รองเท้าวิ่งที่ทำลายสถิติโลกมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการคว้าชัยชนะในการแข่งขันวิ่งทำความเร็วระยะสั้นตั้งแต่ 5 – 10 กิโลเมตร จำหน่ายในราคา 6,500 บาท

 

 


 

ADIZERO ADIOS 7 – รองเท้าวิ่งสายทำความเร็วน้ำหนักเบา ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับการวิ่งในรูปแบบฮาล์ฟมาราธอน (21 กิโลเมตร) มาพร้อมกับส่วนรับแรงกระแทกที่เบาและคืนตัวได้เป็นอย่างดี รวมถึงแกน torsion ที่ช่วยถ่ายเทแรงในทุกย่างก้าว (สี Solar Red และ Coral Fusion ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย)

 

 


 

ADIZERO PRIME X STRUNG – รองเท้าวิ่งรุ่นแรกในตระกูล ADIZERO ที่นำเทคโนโลยี STRUNG มาใช้ในส่วนอัปเปอร์ของรองเท้าด้วยการถักทอด้ายเส้นต่อเส้นอย่างพิถีพิถันเพื่อโอบอุ้มเท้าแบบไร้รอยต่อ อีกทั้งยังมาพร้อมนวัตกรรมแท่งคาร์บอน ENERGYRODS และโฟม LIGHSTRIKE PRO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพถึงขีดสุด พร้อมสำหรับการทำลายสถิติการวิ่งยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา จำหน่ายในราคา 9,400 บาท

รองเท้าซ้อมวิ่ง: สำหรับซ้อมเพื่อการแข่งขัน (TRAIN TO RACE)

       รองเท้าวิ่งกลุ่มนี้ถูกออกแบบโดยอ้างอิงจากเทคโนโลยีที่ใช้ในรองเท้าวิ่งสายทำความเร็ว อย่าง โฟม LIGHSTRIKE PRO และพื้นรองเท้าชั้นกลางแบบ LIGHSTRIKE EVA ที่เบาและซัพพอร์ตได้ดี โดยรองเท้าสำหรับซ้อมวิ่งในตระกูล ADIZERO มี 2 รุ่นย่อย ดังนี้

 


 


ADIZERO SL – รองเท้าซ้อมวิ่งที่ออกแบบมาพร้อมเทคโนโลยีเหนือระดับเหมือนที่มีในรองเท้าวิ่งระดับอีลีท แต่มาในราคาที่เอื้อมถึงได้ เพื่อรองรับการซ้อมในทุกรูปแบบ จำหน่ายในราคา 4,500 บาท

 


 

 

ADIZERO BOSTON 11 – รองเท้าซ้อมวิ่งอเนกประสงค์ที่นำเทคโนโลยี ENERGYRODS ของรองเท้าวิ่งสายทำความเร็วมาประยุกต์ใช้ในพื้นรองเท้าชั้นกลาง ช่วยให้การซ้อมวิ่งในแต่ละวันให้ความรู้สึกเหมือนวันแข่งจริง จำหน่ายในราคา 5,500 บาท

         เปเรส เจปเชอร์เชียร์ (Peres Jepchirchir) นักวิ่งหญิงมืออาชีพของอาดิดาส ดีกรีแชมป์โอลิมปิกและเจ้าของสถิติโลกสามสมัยจากเคนยา กล่าวว่า “โดยปกติ ตารางการแข่งขันและความเข้มข้นของการฝึกซ้อมจะถูกปรับเปลี่ยนไปตามวัตถุประสงค์ที่คาดหวัง ทำให้เราจำเป็นต้องมีรองเท้าวิ่งแบบต่างๆ เพื่อรองรับการวิ่งที่แตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมวิ่งประจำวัน การซ้อมวิ่งแบบ tempo ไปจนถึงการใช้แข่งจริงเพื่อคว้าชัยชนะ ซึ่งรองเท้าวิ่งตระกูล ADIZERO สามารถตอบโจทย์การวิ่งรูปแบบต่างๆ ได้อย่างครบครัน”

       จากการเป็นตระกูลรองเท้าวิ่งที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของนักวิ่งทั่วโลก ทำให้ ADIZERO ได้กลายมาเป็นหมุดหมายสำคัญของอาดิดาส ที่ผู้คนต่างคอยจับตาและเฝ้ามองถึงพัฒนาการความสำเร็จมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม อาดิดาสยังคงสานต่อตำนานของรองเท้าวิ่งตระกูลนี้อย่างต่อเนื่องและคงต้องรอติดตามกันว่าในอนาคตอาดิดาสจะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาเพื่อทลายขีดจำกัดเดิมๆ ของวงการวิ่งได้อย่างไร

         รองเท้าวิ่งคอลเลคชัน SS23 ADIZERO ในเฉดสีใหม่ Solar Red และ Coral Fusion ยกเว้นรุ่น ADIZERO Adios 7 จะวางจำหน่ายตั้งแต่ วันที่ 31 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์, อาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์แมนซ์, อาดิดาส แอปพลิเคชัน, อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ www.adidas.co.th, LINE Shopping: @adidasthailand, อาริ รันนิ่ง, ซูเปอร์สปอร์ต และร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางอินสตาแกรม @adidasthailand เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/adidasTH และ
แฮชแท็ก #adizero #adidasrunning #adidasThailand 

 

 

 

 

 

 

More
ไบร์ท - ตู ถ่ายทอดดีเอ็นเอของแบรนด์ AMI ผ่านคอลเล็กชัน Fall/Winter 2024 ณ ป็อปอัพสโตร์ สยาม พารากอน
เปิดทริคผิวโกลว์ ฉ่ำวาว เล่นแสงได้ขั้นสุดจาก “กิฟฟารีน”
มิว - ศุภศิษฏ์ และ ตุลย์ - ภากร ชมแฟชั่นโชว์ คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 กับแบรนด์ TOD’S ที่มิลาน ประเทศอิตาลี
‘แมท’ แท็คทีม ‘ฝน - นินิว’ ถ่ายทอดคาแรกเตอร์หลากหลายของหญิงสาว ผ่านแคมเปญ #VickteerutPeople
TOM FORD ชวนค้นหาที่มาลุคสุดแกลมของ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ใน “GET READY WITH JT” เบื้องหลังความงามตามสไตล์ตัวแม่
Others
บลิงก์ตัวจริงห้ามพลาด! ซัมซุงชวนเกาะเทรนด์ท่าโพสต์สุด Awesome ปี 2020 จากสี่สาว BLACKPINK กับซัมซุง กาแลคซี่ เอ 51
‘คอมมิท อะ ซิน’ สวยหรูร้อนแรงด้วยสีสันแห่งฤดูร้อน สปริง/ซัมเมอร์ 2015
เปิดเทรนด์พิชิตสุขภาพดีปี 2020 กับเนสท์เล่ ด้วยอาหารสไตล์แพลนต์เบส ออกกำลังกายแบบฟังก์ชันนัล เทรนนิ่ง และอารมณ์ที่มั่นค...
shu:palette 16 เฉดสีนู้ดที่เกิดมาเพื่อเน้นดวงตาของสาวเอเชีย
Margot Robbie เซ็กซี่สตาร์ จาก The Legend of Tarzan และ Suicide Squad
Latest
ยูนิโคล่ จับมือ อันยา ไฮนด์มาร์ช ร่วมสร้างสรรค์ผลงานความสนุกสนาน ครั้งแรกในไทย กับคอลเลคชัน UNIQLO x ANYA HINDMARCH Win...
CDC ฉลองใหญ่ครบรอบ 15 ปี “CDC 15th Anniversary Golf Day” ชูบรรยากาศกอล์ฟสุดพิเศษ รวมตัวพ่อตัวมัมแวดวงธุรกิจ-การออกแบบกร...
“คิง เพาเวอร์” ขยายอาณาจักรค้าปลีกสู่ใจกลางเมือง เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “คิง เพาเวอร์ ซิตี บูทีก” ที่สุดแห่งประสบการณ์ช้อปมิต...
LISA ประกาศปล่อยอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกที่หลายคนรอคอย ALTER EGO กำหนดปล่อยวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025
ไบร์ท - ตู ถ่ายทอดดีเอ็นเอของแบรนด์ AMI ผ่านคอลเล็กชัน Fall/Winter 2024 ณ ป็อปอัพสโตร์ สยาม พารากอน

 

 

Top Hits
“พีพี กฤษฏ์” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์นมพิสทาชิโอแบรนด์ ซันคิสท์ แบรนด์ระดับโลก พร้อมร่วม ครีเอทเมนูสุดพิเศษด้วยนมพิสทาชิโอที่...
Za DEEP HYDRATION ผิวเปล่งปลั่งอิ่มน้ำมีประกาย สวยตั้งแต่วินาทีนี้
มัดรวมภาพประทับใจจากงาน เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา คอลแลปส์ แจ็คสัน หวัง เนรมิต “เดอะ ไฟน์เนส แมนชั่น”
ลดอาการปวดเมื่อยด้วย “ท่านอนที่ถูกวิธี”
Bruce Jenner ตัดสินใจเป็นผู้หญิงในวัย 65 ปี
“เก้า - สุภัสสรา” ชวนช้อปสนุกสุดฟิน กับบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน สิทธิพิเศษเหนือระดับ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ที่ศูนย์กา...
10 อันดับอาหารคอเลสเตอรอลสูง