แอนตี้เอจจิ้ง... ชะลอความเสื่อม ณ จุดซ่อนเร้น
category: Health
tag: แอนตี้ เอจจิ้ง Anti-Aging แพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน ลดน้ำหนัก
วันนี้ขอนอกเรื่องลดความอ้วนกันสักนิด ขอกลับมาดูแลสุขภาพกันสักหน่อยนะคะ ใครว่าแอนตี้ เอจจิ้ง (Anti-Aging) เป็นเรื่องความสวยความงาม?
จริงๆแล้วการทำ เลเซอร์ ฉีดโบท๊อกซ์ ฯลฯ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของวิชาแอนตี้ เอจจิ้ง ภาพรวมใหญ่คือเรื่องของการดูแลสุขภาพร่างกายให้มีความเสื่อมช้ากว่าวัย จะได้ปลอดภัยจากโรคต่างๆ หมดสมัยแล้วที่จะบอกว่าอายุมากขึ้นก็ต้องเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ข้อเสื่อม หรือน้ำหนักขึ้นตามวัย แต่เราสามารถมีสุขภาพดีจนนาทีสุดท้ายของชีวิต
หนึ่งในแอนตี้ เอจจิ้ง หรือเวชศาสตร์ชะลอวัย คือการดูแลสุขภาพคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ ทั้งการปรับสมดุลฮอร์โมนเมื่อก้าวเข้าสู่วัยทอง และการดูแลจุดซ่อนเร้น คุณผู้หญิงกว่า 50% มีปัญหา กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ต้องปลดปล่อยทันทีที่ปวด หรือมีปัญหาปัสสาวะเล็ดเมื่อ ไอ หรือจาม นอกจากจะเลอะเทอะจนต้องฝึกใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ไปไหนก็ไม่สะดวก ยังทำให้หมดความมั่นใจกันไปเลย แถมพออายุมากช่องคลอดก็หลวม ไม่ฟิตเปรี๊ยะแน่นปึ๋ง เหมือนตอนสาว แม้จะฝึกขมิบวันละร้อย หวังให้เมียน้อยถอยหนี (หารู้ไม่ว่าเมียน้อยฝึกขมิบวันละ 200 !) แต่ก็ไม่ช่วยลดปัญหาปัสสาวะเล็ด-ช่องคลอดหลวม บางคนมีปัญหามากจนต้องผ่าตัดทำรีแพร์ หรือทำสาว เจ็บตัว เสียตังค์แพง และยังต้องมีระยะพักฟื้นเป็นเดือน แถมบางคนเป็นแผลเป็นหรือพังผืดอีก
เทคโนโลยีสมัยใหม่ กระชับช่องคลอด เพิ่มความยืดหยุ่นให้ท่อปัสสาวะ ลดปัญหาปัสสาวะเล็ดโดยไม่ต้องผ่าตัด ใช้คลื่นวิทยุ (Radio frequency =RF) ความถี่ที่เหมาะสม กระตุ้นให้อุณหภูมิขึ้นสูง ประมาณ 42-47 องศาเซลเซียส จะช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอิลาสติน ที่ลดน้อยลงตามวัย และตามฮอร์โมนเพศหญิงแอสโตรเจนที่ลดต่ำลง โดยเฉพาะในวัยทอง ขั้นตอนการรักษาไม่ยุ่งยาก ไม่เจ็บ ไม่เกิดแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้งานได้ทันที และราคาย่อมเยากว่าการผ่าตัดมาก
ขบวนการรักษา เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น แล้วแพทย์จะใช้หัว RF ขนาดประมาณปากกาแท่งใหญ่ ตรงปลายมีแผ่นโลหะให้คลื่นวิทยุออกมาสัมผัสผิว ใช้หัว RF นี้ นวดเบาๆทั้งด้านนอกและด้านใน ให้อุณหภูมิขึ้นสูงถึงจุดที่ได้ผลตามงานวิจัย ใช้เวลาทำการรักษา ประมาณ 20-30 นาที ไม่เจ็บไม่ปวด แค่อุ่นๆร้อนๆ ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ไป ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะไม่เกิดแผลใดๆ ภายใน 1-4 สัปดาห์ จะรู้สึกได้ถึงความกระชับ กลั้นปัสสาวะได้ดีขึ้น และปัญหาปัสสาวะเล็ดน้อยลง
หากใครมีปัญหามากอาจต้องทำการรักษา 2-3 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 1 เดือน จนได้ผลดีเป็นที่พอใจ แต่ผลดีที่ได้ ไม่ได้อยู่กับเราชั่วชีวิต เพราะเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอิลาสติน ย่อมเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ทั้งที่ผิวหนัง (กลายเป็นริ้วรอยเหี่ยวย่น), ผนังหลอดเลือด (ความดันโลหิตสูง), กล้ามเนื้อ เอ็น ข้อ (เสื่อม อักเสบ) และที่หูรูดท่อปัสสาวะและช่องคลอด หากหลังการรักษาไปสัก 1-2ปี เริ่มมีอาการกลับมาอีก คุณก็สามารถมารับการรักษาใหม่ได้ทุกปี โดยไม่มีอันตรายใดๆ
ปัญหาช่องคลอดหลวม ปัสสาวะเล็ด ไม่ได้เป็นกันเฉพาะผู้หญิงวัยทองเท่านั้นนะคะ สาวๆที่ยังมีประจำเดือน มีฮอร์โมนเพศหญิงก็มีสิทธิเป็นได้เหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่คลอดลูกเอง คนที่น้ำหนักเยอะ หรืออ้วนกลางลำตัวแบบลูกแอปเปิ้ล น้ำหนักตัวอาจกดทับกระเพาะปัสสาวะทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย กลั้นไม่ค่อยอยู่หรือปัสสาวะเล็ดเมื่อไอหรือจาม และแม้สาวๆที่อดอาหารลดความอ้วนจนตัวผอมบาง ประจำเดือนหาย ฮอร์โมนเพศหด ก็จะประสบปัญหาเหล่านี้ได้เหมือนกัน
เลิกเหนียมอายคุณหมอ ลองปรึกษาแพทย์ที่มีเครื่องมือ RF เช่นเครื่อง ThermiVa ซึ่งคุณหมอแอนตี้ เอจจิ้งหลายท่านใช้แก้ปัญหาให้คนไข้ ไม่จำเป็นต้องเป็นหมอด้านสูติ-นารีเวชฯโดยตรงก็ทำได้ค่ะ ในอเมริกาเขาให้พยาบาลเป็นผู้ให้การรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์อีกทีหนึ่ง เพราะคนไข้สาวน้อยสาวใหญ่อาจจะผ่อนคลายกว่าถ้าได้รับการรักษาโดยพยาบาลผู้หญิง
บทความโดยแพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน
(สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-264-0999, 087-591-4541)
|