ปรับพฤติกรรม ต้านมะเร็งได้

 

คุณรู้หรือไม่ว่า เราทุกคนมีเซลล์มะเร็งอยู่ในตัวเองทุกคน

สถาบันจอห์นฮอปกิ้นส์ได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับโรคมะเร็งว่าทุกคนมีเซลล์มะเร็งอยู่ในตัวเอง และมะเร็งจะไม่ทำให้เรามีอาการใดๆ ตราบใดที่ร่างกายคนเรายังแข็งแรงดี แต่เมื่อไรก็ตามที่เราไม่ดูแลตัวเองจนทำให้ร่างกายอ่อนแอ เซลล์มะเร็งจะสามารถเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนขึ้นได้จนทำให้อวัยวะบางอย่างในร่างกายทำงานผิดปกติ และมีโอกาสแสดงความผิดปกติออกมา และเมื่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งอย่างต่อเนื่องจนแพทย์ระบุว่าผู้ป่วยรายนั้นหายจากโรคมะเร็งแล้ว นั่นหมายความว่ามะเร็งมีจำนวนน้อยลงจนกระทั่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่สามารถตรวจพบได้

 


 

ซึ่งในแต่ละช่วงชีวิตของคนเรา มะเร็งจะมีโอกาสเพิ่มจำนวนขึ้นประมาณ 6-10 ครั้ง แต่อาจจะถูกทำลายและไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้หากเรามีการดูแลสุขภาพที่ดีหรือมีร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งก็หมายถึงหากร่างกายของเรามีภูมิต้านทานที่แข็งแรงนั่นเอง โดยปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดมะเร็งเกิดจาก 2 ปัจจัย คือ 1) เกิดจากสิ่งแวดล้อมภายในร่างกาย เช่น ความผิดปกติที่มีมาแต่กำเนิด แต่จะพบได้น้อย 2) เกิดจากปัจจัยภายนอกร่างกาย ซึ่งปัจจุบันเชื่อว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง เช่น ภาวะโภชนาการ หรือการรับประทานอาหารไม่ถูกสัดส่วนที่เหมาะสม หรืออยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ยกตัวอย่างเช่น น้ำตาล เป็นสารที่มีแนวโน้มที่จะก่อมะเร็งในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลธรรมชาติหรือน้ำตาลเทียม (น้ำตาลเทียม-Aspartame เป็นสารเคมีที่ถูกประกาศว่าเป็นสารอันตรายที่อาจจะก่อให้เกิดโรคมะเร็ง)ดังนั้น หากเป็นคนที่ติดทานหวานหรือรับประทานน้ำตาลมากเกินไปอาจเสี่ยงที่จะทำให้เกิดมะเร็งได้

 


เภสัชกรหญิงวิชชุลดา ผรณเกียรติ์ ผู้เชี่ยวชาญจากเมก้า วีแคร์

 

เภสัชกรหญิงวิชชุลดา ผรณเกียรติ์ ผู้เชี่ยวชาญจากเมก้า วีแคร์ กล่าวว่า “มะเร็งเป็นโรคร้ายแรงและเรื้อรังที่หลายๆ คนคงไม่อยากให้เกิดกับตัวเอง แนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดโรคมะเร็งจึงย่อมดีกว่าการรักษา เราจะเห็นว่าปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดมะเร็งส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมของคนเรานั่นเอง ดังนั้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการรับประทานอาหารเสริมสุขภาพบางชนิด จะช่วยควบคุมการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์มะเร็งได้ โดยเราควรเริ่มที่จะจัดการเรื่องวิถีการดำเนินชีวิตให้เหมาะสมตามแบบที่ทำให้เรามีสุขภาพดีทั้งกายและใจ อันดับแรกควรเลือกบริโภคอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำลายสุขภาพ ได้แก่เลือกรับประทานอาหารที่เค็มน้อยและหวานน้อย โดยเราควรรับประทานเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชาหรือ 6 กรัมในอาหารทั้งหมดที่รับประทานในแต่ละวัน และรับประทานน้ำตาลไม่เกิน 3 ช้อนโต๊ะต่อวัน หรือเลือกใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็งอาทิ เนื้อสัตว์ปิ้ง ย่าง รมควัน และลดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เป็นต้น ให้เหลือไม่เกิน 2แก้วต่อวัน เพราะคาเฟอีนนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลถึงคุณภาพการนอนหลับในตอนกลางคืน ซึ่งการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับร่างกาย หรือเราอาจเลือกดื่มชาเขียวแทนกาแฟเพราะชาเขียวมีคุณสมบัติในการต่อต้านโรคมะเร็ง”

 


 

“นอกเหนือจากนั้น การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารจำเป็นต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับวัย โดยรับประทานอาหารที่หลากหลายจากแหล่งที่ถูกสุขอนามัย ควรเลือกอาหารที่มีไขมันต่ำปราศจากไขมันทรานส์ (Trans Fat)และควรเน้นอาหารที่ประกอบจากธัญพืช เช่นเมล็ดถั่วต่างๆ งา ข้าวโพด ข้าวกล้อง รวมถึงผักสดและผลไม้ให้มากเป็นประจำประมาณวันละ 500 กรัม หรือมากกว่าครึ่งของปริมาณอาหารโดยรวมที่เรารับประทานเข้าไปในร่างกาย เพราะในธัญพืช ผักและผลไม้สดเหล่านี้จะเป็นแหล่งที่ดีของสารอาหารและวิตามินที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะวิตามินซีซึ่งอนุมูลอิสระนี่เองที่ถือได้ว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอ และยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเซลล์มะเร็งให้ออกมาทำลายสุขภาพ ดังนั้น การรับประทานอาหารหรือผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงๆ เช่น ผักคะน้า บร็อคโคลี่ ผักตระกูลกะหล่ำ ส้ม มะขามป้อม ฝรั่ง หรือกีวี่ ฯลฯ จะช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งได้” เภสัชกรหญิงวิชชุลดากล่าวเพิ่มเติม

 


 

“แต่ถ้าเราไม่สามารถรับประทานอาหารสดได้อย่างเพียงพอ มีองค์ความรู้การแพทย์ทางเลือกว่าการเลือกเสริมด้วยสารอาหารธรรมชาติหรือวิตามินหลายชนิดที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี สารสกัดจากชาเขียว และโคเอนไซม์คิวเทน เพื่อเสริมจากการรับประทานอาหารสดในแต่ละวัน จะสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย ช่วยให้เซลล์ต่างๆ ทำงานได้ดีเป็นปกติหรือดีพอที่จะต่อสู้กับเซลล์แปลกปลอมในร่างกายได้ และทำให้เซลล์มะเร็งไม่สามารถเติบโตขึ้นมาในร่างกายสำหรับวิตามินซี หลายๆ คนคงเคยได้ยินมาว่าวิตามินซีมีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันหวัดและเสริมสร้างภูมิต้านทาน แต่ในความเป็นจริงแล้ววิตามินซียังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีการศึกษาวิจัยเรื่องการใช้วิตามินซี 5,000 มิลลิกรัมร่วมกับสารสกัดจากชาเขียว 1,000 มิลลิกรัมเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดอัตราการเติบโตของมะเร็งผิวหนังและมะเร็งเต้านมได้และช่วยลดการเติบโตของมะเร็งลำไส้ได้ถึงร้อยละ75ด้วยคุณสมบัติการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของทั้งวิตามินซีและชาเขียวนั่นเองนอกเหนือจากการดูแลเรื่องการรับประทานอาหารตามที่กล่าวมาแล้วนั้น การมีวิธีจัดการเรื่องความเครียด การมองโลกในแง่ดี อารมณ์ดี ไม่เครียด จะช่วยลดสภาวะที่เป็นกรดในร่างกาย เพราะสภาวะที่ร่างกายเป็นกรดนี่เองที่จะส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อมะเร็งได้ ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมตามวัยการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพและเพียงพอจะช่วยส่งเสริมความแข็งแรงของทุกคน” เภสัชกรหญิงวิชชุลดากล่าวสรุป

 


 

อ้างอิง:

  1. https://wausaunews.wordpress.com/2014/01/18/big-hospital-finally-telling-the-truth-about-cancer-johns-hopkins/
  2. M. De la Fuente and Fernandez A Soleretal. Immune Function in Aged Women is Improved by Ingestion of Vitamins C and E; Can J PhysiolPharmacol 1998; 76: 373-80

3.        Carol S. Johnston, Linda J. Martin and Xi Cai. Antihistamine Effect of Supplemental  Ascerbic Acid and Nutrophil Chemotaxis. Journal of American College of Nutrition 1992; 11 (2):  172-176

 

 

 

 

 

More
เห็นผลการออกกำลังกายที่เร็วกว่า และดีกว่า ด้วยแผนการออกกำลังกายที่สมดุล
ถึงเวลาเปลี่ยน! ชุดออกกำลังกายใหม่ เพราะทุกส่วนของร่างกายต้องการการซัพพอร์ตที่เหมาะสม
5 ท่าเวิร์คเอาท์ นั่งทำงานติดโต๊ะ ก็ทำได้!
ใส่แล้วเฟี้ยว!!! รองเท้าวิ่งตระกูลไนกี้ เน็กซ์ เปอร์เซ็นต์ (Nike NEXT%)
ONE RUN 2019 งานวิ่งอนุรักษ์ธรรมชาติจากคลื่น FM ONE
Others
รวมตัวครั้งยิ่งใหญ่เยาวชนนักเต้นไทย สู่เวทีระดับโลก “CSTD Thailand Dance Grand Prix 2024” ครั้งที่ 11
ฝากไข่ในวัยสาวของคุณแม่ @ Bangkok Central Clinic IVF Wellness
นางฟ้าก้านเหล็กสุดเซ็กซี่แห่งแดนโสม “อันชินเอ”
ฟื้นฟูผิวกระจ่างใส ผ่อนคลายกายและใจในสไตล์โมรอคโค กับสปาทรีทเมนท์ฮัมมัม ณ สปาเซ็นวารี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิล...
ฟิโลโซฟี เผยโฉมเซรั่มฟื้นฟูผิวรอบดวงตา ทั้ง 3 มิติของกาลเวลา ด้วย ไทม์ อิน อะ บอทเทิล 100% อิน คอนโทรล ฟอร์ อายส์
Latest
“ณเดชน์ คูกิมิยะ” กับการก้าวสู่วงการนวัตกรรมความงาม! นั่งแท่นแบรนด์แอม RADIESSE(+) ร่วมเผยกรอบหน้าคมชัด ดึงดูดทุกสายตา ...
เดนทิสเต้พาลิซ่ามาจัดงานในเมืองไทยอีกครั้ง! จัดเต็ม “สิทธิพิเศษ” เหนือใคร มอบ 3 Passes ให้ลูกค้าเจอลิซ่ากับ 3 กิจกรรมสุ...
เอ็นไอเอ - สธ. ร่วมดันบริการสุขภาพดิจิทัล เชื่อมโยงข้อมูลบริการสาธารณสุขบนดิจิทัลเฮลธ์แพลตฟอร์ม
ไทยกูลิโกะ เปิดตัว “กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ มิกซ์ 3 นัท” ครั้งแรกใน SEA “ใหม่ ดาวิกา” พรีเซนเตอร์ สุดปัง!! สวย สุขภาพดี...
โนวาร์ตีสคว้ารางวัล WEPs Awards สนับสนุนความเสมอภาคทางเพศผ่านกิจกรรมชุมชนและอุตสาหกรรม เสริมสร้างความเป็นธรรมด้านสุขภาพเ...

 

 

Top Hits
“พีพี กฤษฏ์” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์นมพิสทาชิโอแบรนด์ ซันคิสท์ แบรนด์ระดับโลก พร้อมร่วม ครีเอทเมนูสุดพิเศษด้วยนมพิสทาชิโอที่...
Za DEEP HYDRATION ผิวเปล่งปลั่งอิ่มน้ำมีประกาย สวยตั้งแต่วินาทีนี้
มัดรวมภาพประทับใจจากงาน เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา คอลแลปส์ แจ็คสัน หวัง เนรมิต “เดอะ ไฟน์เนส แมนชั่น”
ลดอาการปวดเมื่อยด้วย “ท่านอนที่ถูกวิธี”
Bruce Jenner ตัดสินใจเป็นผู้หญิงในวัย 65 ปี
“เก้า - สุภัสสรา” ชวนช้อปสนุกสุดฟิน กับบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน สิทธิพิเศษเหนือระดับ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ที่ศูนย์กา...
10 อันดับอาหารคอเลสเตอรอลสูง