เปิดใจญาญ่าครั้งแรก! กับเหตุผลที่ทำไมถึงรักดิสนีย์ ไลฟ์-แอ็คชั่นจนหมดใจ
category: Entertainment - Thai Stars
tag: Maleficent: Mistress Of Evil YAYA The Lion King
จบไปแล้วกับงานแถลงข่าว ‘ดิสนีย์ แมจิคอล เยียร์’ (Disney’s Magical Year) ครั้งแรกจาก เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ (ประเทศไทย) จำกัด ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ ไม่พลาด มาร่วมแชร์เรื่องราวความประทับใจ
“เมื่อพูดถึงดิสนีย์ คำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวญาญ่าเลยคือคำว่า ‘มหัศจรรย์’ ค่ะ สิ่งที่ดิสนีย์มอบให้กับผู้คนทั่วโลกมาตลอดคือความบันเทิงสุดมหัศจรรย์ใจ เหมือนมีมนต์วิเศษอยู่ในทุกๆ เรื่องราวของเขาเลย ทุกๆ การถ่ายทอดของดิสนีย์เหมือนพาญาญ่าไปสู่โลกใบใหม่ที่สวยงาม (A whole new world) เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเราเป็นเด็ก เรื่องราวของดิสนีย์จะจุดประกายความสุขในตัวเราได้เสมอ จนถึงปัจจุบันดิสนีย์ก็ยังคงมอบความสุขแบบนี้ให้กับญาญ่ารวมถึงแฟนๆ ทั่วโลกอยู่ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทำให้ญาญ่าหลงรักดิสนีย์มาตลอด”
จุดเริ่มต้นของญาญ่าในฐานะ “สาวกคนรักดิสนีย์” กับโมเมนต์สุดประทับใจในวัยเด็ก
“ถ้าจะให้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นแฟนตัวยงของดิสนีย์ ญาญ่าคงจะต้องเล่าย้อนไปตั้งแต่เด็กๆ เลยค่ะ มันเริ่มมาตั้งแต่ที่เราได้ดูแอนิเมชั่นเรื่องแรกนั่นก็คือ เงือกน้อยผจญภัย (The Little Mermaid) ในฐานะเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่มีทางปฏิเสธได้เลยว่าญาญ่าเองก็เป็นหนึ่งในคนที่สมมติตัวเองเป็นเจ้าหญิงแอเรียล (ขำ) ญาญ่าเชื่อว่าทุกคนต้องเคยผ่านจุดนี้มาเหมือนกันแน่ๆ ค่ะ มันเหมือนเป็นความประทับใจแรกของเราต่อดิสนีย์เลย และหลังจากนั้นญาญ่าก็ติดตามผลงานของดิสนีย์มาโดยตลอด”
ภาพยนตร์ไลฟ์-แอ็คชั่นในดวงใจของญาญ่า
“ต้องเป็นโฉมงามกับเจ้าชายอสูร (Beauty and The Beast) แน่นอนค่ะ ญาญ่ารู้สึกว่าเวอร์ชั่นไลฟ์-แอ็คชั่นทำออกมาได้ใกล้เคียงกับแอนิเมชั่นมากๆ ซึ่งญาญ่าชอบความโรแมนติกของเนื้อเรื่องตั้งแต่ตอนเป็นแอนิเมชั่นแล้วค่ะ ญาญ่าว่ามันเป็นเรื่องที่กินใจมากๆ ที่เบลล์เลือกที่จะมองข้ามเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกของเจ้าชายอสูรและเลือกที่จะรักที่ตัวตนจริงๆ จากภายในของเขา เหมือนกับวลีภาษาอังกฤษที่ว่า ‘Don’t judge a book by its cover’ ยิ่งไปกว่านั้น เอมม่า วัตสัน ก็เล่นเป็นเบลล์ได้อย่างสมบทบาทมากๆ เรื่องนี้จึงกลายมาเป็นไลฟ์-แอ็คชั่นในดวงใจของญาญ่าค่ะ”
‘ดิสนีย์ แมจิคอล เยียร์’ (Disney’s Magical Year) ครั้งแรกของดิสนีย์ ไลฟ์-แอ็คชั่นถึง 4 เรื่องในปีเดียว
“ทันทีที่รู้ว่าดิสนีย์จะนำเรื่องราวสุดคลาสสิกของดิสนีย์แอนิเมชั่นมาถ่ายทอดใหม่ในรูปแบบของไลฟ์-แอ็คชั่นที่ใช้คนจริงๆ มาแสดง รวมถึงใช้เทคนิคพิเศษต่างๆ ที่เนรมิตเหล่าตัวละครให้ออกมาเหมือนชีวิตจริง บอกได้คำเดียวว่า ตื่นเต้นมาก (ลากเสียงยาว) ตื่นเต้นจนอดใจรอที่จะชมไม่ไหวแล้วค่ะ ยิ่งพอเห็นไลน์อัพแล้วยิ่งดีใจกว่าเดิมอีก เพราะไม่ว่าจะเป็นช้างน้อย ดัมโบ้ (Dumbo) อะลาดิน (Aladdin) เดอะ ไลอ้อน คิง (The Lion King) รวมถึงภาคต่อของมาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ (Maleficent: Mistress Of Evil) ญาญ่าก็ประทับใจมาตั้งแต่แอนิเมชั่นต้นฉบับแล้วค่ะ”
ขอหนึ่งคำให้กับไลฟ์-แอ็คชั่นแต่ละเรื่องที่กำลังต่อคิวรอเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ปีนี้
ดัมโบ้ (Dumbo) – สำหรับดัมโบ้คงจะเป็นคำว่า ‘ครอบครัว’ ค่ะ เมื่อได้ยินชื่อเรื่องนี้เราจะนึกถึงสายสัมพันธ์แม่-ลูก ความสัมพันธ์ของทุกๆ คนในคณะละครสัตว์ นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างคนแล้ว ยังรวมถึงความสัมพันธ์ของเหล่าสัตว์ด้วย เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ประทับใจญาญ่ามากๆ
อะลาดิน (Aladdin) – ต้องนึกถึง ‘พรมวิเศษ’ แน่นอนค่ะ (ยิ้ม) อย่างที่ญาญ่าบอก ญาญ่าชื่นชอบเรื่องราวความรักโรแมนติกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นฉากที่อะลาดินและจัสมินขึ้นพรมวิเศษไปท่องราตรีด้วยกัน จึงเป็นฉากในดวงใจของญาญ่าในภาพยนตร์เรื่องนี้เลย
เดอะ ไลอ้อน คิง (The Lion King) – คำว่า ‘สมจริง’ เป็นคำแรกที่ญาญ่านึกถึงทันทีที่ได้ดูตัวอย่างภาพยนตร์ค่ะ ดิสนีย์ทำให้ตัวละครที่เป็นสัตว์ออกมาสมจริงและเป็นธรรมชาติมากๆ เป็นไลฟ์-แอ็คชั่นที่ญาญ่าตั้งหน้าตั้งตารอที่จะชมที่สุดของปีนี้เลยค่ะ
มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ (Maleficent: Mistress Of Evil) – ญาญ่าคงต้องขอตอบเป็นประโยคแทนแล้วล่ะค่ะสำหรับเรื่องนี้ เพราะญาญ่านึกถึงประโยคที่ว่า ‘In every good there is evil and every evil there is good’ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เปิดเผยเรื่องราวอีกมุมที่ไม่เคยมีใครรู้เกี่ยวกับตัวละครมาเลฟิเซนต์มาก่อน ทำให้พวกเราได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันมักจะมีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่ในสิ่งร้ายๆ แล้วมีสิ่งร้ายๆ ซ่อนอยู่ในสิ่งดีๆ เสมอค่ะ”
บทเพลงจากดิสนีย์ที่ตราตรึงใจญาญ่ามาจนถึงปัจจุบัน
“นอกจากความคลาสสิกของแอนิเมชั่นแล้ว อีกสิ่งที่ทำให้ญาญ่าตกหลุมรักดิสนีย์ก็คือเพลงประกอบ แต่ถ้าจะให้เลือกเพลงของดิสนีย์ที่เป็นอันดับหนึ่งในใจญาญ่าเลยต้องเป็นเพลงจาก เดอะ ไลอ้อน คิง (The Lion King) ไม่ว่าจะเป็น Can you feel the love tonight Hakuna Matata หรือ Circle of Life ตอนเด็กๆ ญาญ่าร้องตามได้หมดเลยค่ะ เรียกว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้เติมเต็มชีวิตวัยเด็กของญาญ่าก็ว่าได้ค่ะ”
สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ของดิสนีย์บ้าง
“ญาญ่าเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของภาพยนตร์ไลฟ์-แอ็คชั่นอย่างแน่นอนค่ะ เริ่มตั้งแต่ต้นปีด้วยความมหัศจรรย์ของช้างน้อยบินได้ ดัมโบ้ (Dumbo) ต่อด้วยอะลาดิน (Aladdin) เรื่องราวของ เวทมนตร์ พรมวิเศษ ตะเกียงวิเศษ ยักษ์จีนี่ และความรักระหว่างโจรหนุ่มอาละดินกับเจ้าหญิงจัสมิน และเรื่องราวสุดคลาสสิกที่ทุกคนต้องคิดถึงของ เดอะ ไลอ้อน คิง (The Lion King) กับความมหัศจรรย์ของบทเพลงและเหล่าตัวละครอันน่าจดจำ อย่างซิมบ้าและนาล่า ปิดท้ายปีด้วยการหวนคืนสู่จอเงินของนักแสดงอย่าง แองเจลิน่า โจลี่ ในหนังภาคต่อที่ทุกคนรอคอย มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ (Maleficent: Mistress of Evil) ญาญ่าอยากให้ทุกคนติดตาม ‘Disney’s Magical Year’ ปีแห่งความมหัศจรรย์ของดิสนีย์ กับไลฟ์-แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ทั้ง 4 เรื่องตลอดทั้งปีนี้นะคะ”
|