สายไหม มณีรัตน์ ศรีจรูญ คลายความกังวลเรื่องรูปร่าง ด้วยการรู้จักบาลานซ์
category: Entertainment - Thai Stars
tag: สายไหม มณีรัตน์ ศรีจรูญ ช่อง3
แม้จะกังวลใจเรื่องรูปร่าง แต่ สายไหม มณีรัตน์ ศรีจรูญ บอกว่ามีเคล็ดลับคลายความกังวลที่ว่านี้ด้วยวิธีง่ายๆที่พร้อมเปิดเผยให้ทุกคนได้รับรู้ คือ การรู้จักบาลานซ์ตัวเอง ควบคุมทั้งเรื่องอาหารการกิน และ การออกกำลังกาย แล้วความกังวลนั้นก็จะหายไปเอง
"ไหมเคยหนักสุด 55 กก. ตอนนั้นไปเรียนที่อเมริกา กินเยอะ อาหารที่นั่นมีแต่นม เนย แคลอรีสูงๆ ทั้งนั้นเลย บวกกับอากาศที่หนาว ทำให้ไม่ค่อยอยากออกไปข้างนอก ไม่ค่อยออกกำลังกาย น้ำหนักก็เลยพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ไหมรู้สึกเลยว่าอาหารมีผลต่อน้ำหนักจริงๆ เพราะตอนกลับมาเมืองไทย ยังไม่ทันออกกำลังกาย เปลี่ยนแค่อาหาร จากอาหารฝรั่งเป็นอาหารไทย น้ำหนักก็ลดลงแล้ว"
ค้นพบกีฬาที่เหมาะกับตัวเอง
“ไหมเป็นคนที่มีช่วงไหล่กว้าง ถ้าอ้วน จะเห็นชัด ดูตัวใหญ่ เลยต้องควบคุมอาหาร และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ตอนนี้ดีใจมากๆ ที่ค้นพบกีฬาที่ตัวเองชอบ คือ ต่อยมวย เป็นกีฬาที่ช่วยเบิร์นได้ดี แถมยังสนุก เพราะมีคู่ซ้อม ได้เพื่อนเยอะ ครูฝึกก็ใจดี ทำให้เรามีกำลังใจ รู้สึกว่าตัวเองเก่ง (หัวเราะ) ตอนนี้ต่อยมาปีนึงแล้ว แต่ไม่ได้ต่อยทุกวัน อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ต่อยอยู่ที่ค่ายมวยของพี่แมทธิว เริ่มต้นมาจากเพื่อนไปต่อยแล้วน้ำหนักลดลงเร็วมาก เราเลยถามว่าไปทำอะไรมา เพราะปกติไหมจะวิ่งอยู่ที่บ้าน แต่ทำอยู้เดี๋ยวเดียวก็เลิก เพราะเบื่อ คงเพราะวิ่งอยู่แต่ในลู่ ไม่ได้เจอเพื่อน เปิดเพลงฟังก็ไม่ช่วยอะไร แต่พอไปต่อยมวย ได้เจออาจารย์หลายคน แต่ละคนก็จะมีเทคนิค วิธีการหลอกล่อที่ไม่เหมือนกัน
ครั้งแรกที่ต่อย ไหมจะงงมากกับการใช้เท้ากับมือ เพราะมันต้องไปด้วยกัน มีต่อยหลายแบบ เวลาครูบอกให้ทำทีเดียวเป็นชุด ทั้งต่อยฮุก งัด ต่อยจากข้างหน้า ข้างบน ใช้ข้อศอก ขา เท้า ไหมจะสับสนกับคำสั่งมาก (หัวเราะ) หลังๆ เริ่มชิน ก่อนจะต่อยแต่ละครั้ง ตอนแรกต้องวอร์มร่างกายก่อน เช่น วิ่ง กระโดดเชือก ยืดเส้นยืดสาย เวลาต่อยจะได้ไม่ปวด บางครั้งต่อยไม่หยุดเลย ครูฝึกก็จะช่วยบ้าง แกล้งล้ม แกล้งเจ็บ เราจะได้ไม่เสียหน้ามาก (หัวเราะ) แต่บางช่วงก็ไม่ไหวจริงๆ อย่างไปเรียน ไปถ่ายละครมา แล้วไปออกกำลังกายหนักๆ บางทีร่างกายก็ไม่พร้อม ต้องขอพักบ่อยเหมือนกัน ช่วงที่ไปต่อยบ่อยๆ น้ำหนักลดลงบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะช่วยเรื่องเฟิร์มมากกว่า อย่างพวกต้นขา ตอนที่เตะหนักๆ กล้ามเนื้อขึ้นมาแข็งเลย”
อาหารไทยดีที่สุด
“ที่บ้านจะมีพี่เลี้ยงทำกับข้าวอร่อยมาก คุณแม่จะดูแลในเรื่องวัตถุดิบต่างๆ เช่น พวกน้ำมันพืช ก็เปลี่ยนมาใช้น้ำมันมะกอก น้ำตาล น้ำปลา เกลือ รวมถึงเครื่องปรุงต่างๆ ก็ต้องควบคุม ที่สำคัญต้องมีผัก และผลไม้ด้วยทุกมื้อ ถือว่าเป็นบ้านที่รักสุขภาพ แต่ก็ Enjoy eating เหมือนกัน จริงๆ คุณพ่อเป็นเบาหวานอยู่ด้วย ที่บ้านก็ต้องควบคุมนิดนึง แต่โชคดีที่บ้านไม่ค่อยชอบกินอาหารหวานอยู่แล้ว จะเน้นอาหารรสจัด เปรี้ยว เผ็ดนำมากกว่า ปกติไหมไม่ค่อยชอบอาหารมัน อาหารทอดอยู่แล้ว ไม่ได้กลัวอ้วน แต่แค่ไม่ชอบรสชาติ ก็เลยไม่กิน มีเมนูช่วงไดเอต คือ ส้มตำ ตำข้าวโพด ยำถั่วฟักยาว ยำไก่ย่าง ยำวุ้นเส้น ยำทูน่า เป็นคนที่ชอบเมนูพวกยำมาก (ลากเสียง) ไหมมองว่าอาหารไทยของเรานี่แหละที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพจริงๆ เต็มไปด้วยสมุนไพรมากมาย นอกจากจะไม่แพงแล้ว ยังอร่อย ถูกปาก และแคลอรีต่ำ ต่อให้เป็นแกงที่ใส่กะทิ ก็ยังน้อยกว่าพวกซุปครีม พวกซอสต่างๆ ของเมืองนอกอยู่ดี”
การควบคุมน้ำหนักไม่ใช่การอด
“ ช่วงที่ควบคุมน้ำหนัก ไหมเรียนรู้ว่าการที่เราจะลดน้ำหนัก โดยไม่กินอะไรเลย หรืออดอาหาร สุดท้ายมันไม่เวิร์ค ก็เลยหันมากินครบทุก 3 มื้อ แต่ลดปริมาณลง และไม่กินของจุบจิบ เน้นอาหารคลีน มีผักเยอะๆ แคลอรีต่ำ เดี๋ยวนี้ก็มีอาหารแคลอรีต่ำให้เลือกมากมาย ทั้งคอร์นเฟลกซ์ มูลสี่ แต่ต้องเลือกดีๆ อย่ากินเยอะ ไม่งั้นก็อ้วนเหมือนกัน ส่วนของหวาน จริงๆ แล้วเป็นของคู่กันสำหรับสาวๆ ไหมเองก็ชอบมาก ไม่สามารถงดกินได้ ใจไม่เข้มแข็งพอ (หัวเราะ) ฉะนั้นเวลากินก็ต้องเลือกอะไรที่ไม่หวานมาก กินเพื่อให้รู้รสชาติ ลดปริมาณลง ไหมไม่อยากอด เพราะเวลาอยากมากๆ กลัวจะไประเบิดทีหลัง (หัวเราะ)
ไหมไม่เคยกินยาลดความอ้วนเลย เคยเห็นคนกินแล้วมีผลข้างเคียงตามมา ทั้งโยโย่เอฟเฟ็กต์ เป็นลม วิงเวียนศีรษะ บางคนถึงกับต้องหามส่งโรงพยาบาล เราเลยกลัวไม่คิดอยากจะลองเด็ดขาด สู้เราค่อยๆ ลดด้วยวิธีธรรมชาติดีกว่า ถึงจะเห็นผลช้าแต่ก็ถาวร และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายด้วย ส่วนพวกอาหารเสริม ไหมก็ไม่กินเหมือนกัน ที่บ้านเองก็ไม่สนับสนุนให้กินของพวกนี้ ส่วนใหญ่จะให้กินวิตามินมากกว่า “
|