เส้นใยจากบุกกับการลดน้ำหนัก
category: Diet & Exercise
tag: หัวบุก เส้นใยอาหาร สุจิตต์ สาลีพันธ์ บุกควบคุมน้ำหนัก
หัวบุก เป็นแหล่งอาหารที่ให้ใยอาหารที่ดี ให้พลังงานต่ำ แต่การรับประทานอาหารเพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน ควรรับประทานให้หลากหลายครบ 5 หมู่ เราไม่สามารถรับประทานหัวบุกเป็นอาหารเพียงอย่างเดียว
ความเป็นมา ในประเทศไทยมีการนำหัวบุกและก้านใบบุกมาปรุงเป็นอาหารคาวหวาน โดยไม่ได้สกัดเอาเนื้อวุ้นบุกออกมา ส่วนในประเทศญี่ปุ่นมีการแปรรูปบุก โดยมีการสกัดแยกวุ้นบุกออกมาแล้วนำมาทำเป็นอาหาร ซึ่งมีความเชื่อว่า วุ้นบุกช่วยทำให้ไม่อ้วน ลดโอกาสการเป็นโรคเบาหวาน และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า มีผลิตภัณฑ์จากหัวบุกจำหน่ายอยู่ทั่วไปหลากหลายรูปแบบ ทั้งผลิตภัณฑ์ที่ปรุงสำเร็จสำหรับพร้อมทาน หรือผลิตภัณฑ์ที่นำมาปรุงประกอบเป็นอาหารได้ทั้งอาหารคาว และอาหารหวาน
หัวบุกกับการควบคุมน้ำหนัก การที่เราจะควบคุมน้ำหนักได้ดีนั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่การเลือกชนิดของอาหารที่รับประทาน เพื่อไม่ให้ได้รับพลังงานมากเกิน หัวบุกจัดอยู่ในอาหารประเภทที่เหมาะสำหรับใครที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะให้พลังงานต่ำ และมีใยอาหารสูง ทำให้รู้สึกอิ่มท้องนาน ขับถ่ายสะดวก จนมีคำแนะนำว่าให้ซื้อผงวุ้นบุกมาชงกับน้ำเปล่าดื่มก่อนมื้ออาหารประมาณ 30 นาที ครั้งละ 1 แก้ว (โดยชงวุ้นบุกครั้งละ 1-2 ช้อนชา ผสมกับน้ำ 1 แก้วแล้วดื่ม) และสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก อาจจะชงดื่มอีกครั้งในมื้อท้องว่างก่อนนอนก็ได้ แต่ก็ต้องระมัดระวังไม่รับประทานมากจนเกินไปจนไม่สามารถรับประทานอาหารอื่น ๆ)
เมนูอาหารจากบุก
ปัจจุบันนี้หัวบุกเป็นอาหารที่หาซื้อง่าย หัวบุกสามารถนำมาสกัดเป็นวุ้นบุกแล้วมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด ตั้งแต่ ผงวุ้นบุก บุกเส้นก๋วยเตี๋ยว บุกเป็นลูกเต๋า หรือรูปแบบอื่น ๆ ดังนั้น เราก็จะนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลายรูปแบบเช่นกัน
1. อาหารหรือเครื่องดื่ม ได้แก่ น้ำผัก น้ำเต้าหู้ น้ำซุป น้ำผลไม้ โอวัลติน ชา กาแฟ เมื่อเราชงได้รสชาติตามต้องการแล้ว เราอาจจะเติมผงวุ้นบุกประมาณ 1 – 2 ช้อนชา คนให้เข้ากันแล้วดื่มทันที
2. อาหารมื้อหลัก เราสามารถนำผลิตภัณฑ์จากบุกมาเป็นส่วนประกอบของอาหารได้ เช่น ทำเป็นสลัด ต้มยำหัวบุก แกงใส่หัวบุก ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า เราใช้ผงวุ้นบุกทำน้ำราดหน้าแทนแป้งมัน ยำต่าง ๆ สามารถผสมบุกสำเร็จรูปลงไปได้ หรืออาจนำมาทำเป็นขนมหวานใส่น้ำแข็งรับประทาน
ถึงแม้เราจะรู้กันดีแล้วว่าหัวบุกนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายเรา แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถรับประทานมากเท่าไหร่ก็ได้ เพราะการรับประทานอาหารไม่ว่าจะเป็นอาหารชนิดใดก็ตาม มีผลต่อสุขภาพทั้งสองด้านเสมอ รับประทานแบบพอเหมาะก็จะให้ผลดีต่อสุขภาพค่ะ
ขอบคุณบทความจากนิตยสาร Slimming โดยคุณสุจิตต์ สาลีพันธ์
|